1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีผลคะแนน O-NET วิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
2. สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสอบสัมภาษณ์

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

1. มีผลคะแนน O-NET วิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50

2. สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสอบสัมภาษณ์

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีผลคะแนน O-NET วิชาภาษาอังกฤษ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50

2. สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสอบสัมภาษณ์

3. เป็นผู้บกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหว โดยสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และสามารถเขียนได้ด้วยมือปกติ

5.บัตรประจำตัวผู้พิการ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เรียนสายศิลป์ภาษาฝรั่งเศส มีจำนวนหน่วยกิตรายวิชาภาษาฝรั่งเศสไม่น้อยกว่า 15 หน่วยกิต

5. หลักฐานคะแนน PAT 7.1 (ภาษาฝรั่งเศส)

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

5. ส่งแฟ้มสะสมผลงาน (portfolio) ในวันสอบสัมภาษณ์

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. ไม่เป็นผู้พิการทุกประเภท เนื่องจากกระบวนวิชาในหลักสูตรมีการฝึกปฏิบัติที่ทั้งในห้องปฏิบัติการและนอกสถานที่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรค์ต่อผู้เรียน และมีกระบวนวิชาฝึกปฏิบัติที่ทำให้ผู้เรียนเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. เป็นผู้บกพร่องทางการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ โดยสามารถช่วยเหลือตัวเองได้

5.บัตรประจำตัวผู้พิการ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษาและไม่เป็นผู้พิการทางสายตาและหู เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติวิชาชีพทางจิตวิทยา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. รับเฉพาะประเภทศิลป์เท่านั้น (ศิลป์คำนวณ, ศิลป์ภาษา และอื่นๆ)

2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษาและไม่เป็นผู้พิการทางสายตาและหู เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติวิชาชีพทางจิตวิทยา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ตามกฏหมาย

2.เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษาและไม่เป็นผู้พิการทางสายตาและหู เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติวิชาชีพทางจิตวิทยา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. รับเฉพาะประเภทศิลป์เท่านั้น (ศิลป์คำนวณ, ศิลป์ภาษา และอื่นๆ)

2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษาและไม่เป็นผู้พิการทางสายตาและหู เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติวิชาชีพทางจิตวิทยา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีคะแนนสอบวิชาสามัญครบทั้ง 5 วิชา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1.ไม่เป็นผู้พิการทุกประเภท เนื่องจากกระบวนวิชาในหลักสูตรมีการฝึกปฏิบัติที่ทั้งในห้องปฏิบัติการและนอกสถานที่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้เรียนและมีกระบวนวิชาฝึกปฏิบัติที่ทำให้ผู้เรียนเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1.ไม่เป็นผู้พิการทุกประเภท เนื่องจากกระบวนวิชาในหลักสูตรมีการฝึกปฏิบัติที่ทั้งในห้องปฏิบัติการและนอกสถานที่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้เรียนและมีกระบวนวิชาฝึกปฏิบัติที่ทำให้ผู้เรียนเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.75 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.75 

1.  เป็นผู้พิการซึ่งมีบัตรประจำตัวผู้พิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

2.  มีประเภทความพิการเป็นผู้บกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหว โดยสามารถช่วยเหลือตนเองได้ ต้องไม่ใช้รถเข็น (Wheelchair) หรือเครื่องช่วยเดิน (Walker) และสามารถเขียนได้ด้วยมือปกติ

1.บัตรประจำตัวผู้พิการ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

1. มีใบรับรองแพทย์เฉพาะทางการกีฬา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. ต้องสอบวิชาเฉพาะ คือวิชา ความรู้ทั่วไปทางด้านทัศนศิลป์และวาดเส้น โดยมีสองเนื้อหา คือ สอบเนื้อหาความรู้ทั่วไปทางด้านทัศนศิลป์ ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 50 คะแนน และเนื้อหาวาดเส้น ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 คะแนน ทั้งนี้ให้ผู้เข้าสอบเตรียมอุปกรณ์สำหรับสอบดังนี้
1.1 อุปกรณ์การวาดเขียน ได้แก่ ดินสอ EE หรือดินสอดำ 2B ขึ้นไป, ปากกา, ยางลบ คลิปหนีบกระดาษ เป็นต้น
1.2 กระดานสำหรับรองวาดรูป ขนาดมาตรฐาน
หมายเหตุ : -ห้ามผู้เข้าสอบนำภาพร่างเข้าห้องสอบ

-วิชาความรู้ทั่วไปทางทัศนศิลป์และวาดเส้น (FA1) ผู้สมัครจะต้องสมัครสอบตั้งแต่วันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์สำนักทะเบียนฯ โดยจะจัดสอบที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 10 มีนาคม 2562

2. มีผลการเรียนเฉลี่ย ม.4-ม.6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.00

4.1. ส่ง Portfolio พร้อมใบสมัครประกอบด้วยประวัติและผลงานด้านศิลปะหรือศิลปวัฒนธรรม พร้อมภาพกิจกรรมต่างๆ หรือเกียรติบัตรและรางวัลที่เคยได้รับ เป็นต้น

4.2  ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องแสดงความสามารถด้านศิลปวัฒนธรรม หรือทดสอบทักษะด้านศิลปะในวันสอบสัมภาษณ์เป็นรายบุคคล (ลักษณะของผลงานเป็นไปตามความถนัดของผู้สมัครแต่ละคน)

หมายเหตุ : - แฟ้มประวัติผลงาน (Portfolio) ให้จัดทำเป็นรูปเล่มขนาด A4 เท่านั้น จำนวนไม่เกิน 10 หน้า 

- ผลงานจริง เกียรติบัตรหรือรางวัลที่เคยได้รับให้นำมาแสดงต่อคณะกรรมการในวันสอบสัมภาาณ์

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

4.ผู้สมัครต้องทำการสอบวิชาเฉพาะ ดังนี้

4.1 สอบข้อเขียนความรู้ทั่วไปทางทัศนศิลป์และวาดเส้น (ผู้เข้าสอบต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 20 คะแนนทั้งสองส่วน จึงจะถือว่าผ่านการคัดเลือก)

4.2 เนื้อหาความรู้ทั่วไปทางทัศนศิลป์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 คะแนน 

4.3 เนื้อหาวาดเส้น ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 50 คะแนน 

4.4 อุปกรณ์ที่ผู้เข้าสอบต้องเตรียมมาในวันสอบ : ดินสอEE หรือดินสอดำ 2B ขึ้นไป, ปากกาดำ, กระดาษรองสำหรับวาดภาพ ขนาด 40x60 c.m. เครื่องเหลาดินสอ และยางลบ เป็นต้น และห้ามผู้เข้าสอบนำภาพร่างเข้าห้องสอบ

หมายเหตุ : - วิชาความรู้ทั่วไปทางทัศนศิลป์และวาดเส้น (FA1) ผู้สมัครจะต้องสมัครสอบตั้งแต่วันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์สำนักทะเบียนฯ โดยจะจัดสอบที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 10 มีนาคม 2562

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3.ผู้สมัครต้องทำการสอบวิชาเฉพาะ ดังนี้

3.1 สอบข้อเขียนความรู้ทั่วไปทางทัศนศิลป์และวาดเส้น (ผู้เข้าสอบต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 20 คะแนนทั้งสองส่วน จึงจะถือว่าผ่านการคัดเลือก)

    3.1.1 เนื้อหาความรู้ทั่วไปทางทัศนศิลป์ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 คะแนน 

    3.1.2 เนื้อหาวาดเส้น ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 50 คะแนน 

4. อุปกรณ์ที่ผู้เข้าสอบต้องเตรียมมาในวันสอบ :  ดินสอEE หรือดินสอดำ 2B ขึ้นไป, ปากกาดำ, กระดาษรองสำหรับวาดภาพ ขนาด 40x60 c.m. เครื่องเหลาดินสอ และยางลบ เป็นต้น  และห้ามผู้เข้าสอบนำภาพร่างเข้าห้องสอบ

หมายเหตุ : - วิชาความรู้ทั่วไปทางทัศนศิลป์และวาดเส้น (FA1) ผู้สมัครจะต้องสมัครสอบตั้งแต่วันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์สำนักทะเบียนฯ โดยจะจัดสอบที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 10 มีนาคม 2562

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3. ผู้สม้ครต้องสอบวิชาเฉพาะ คือวิชา ความรู้ทั่วไปทางด้านทัศนศิลป์และวาดเส้น โดยมีสองเนื้อหา คือ สอบเนื้อหาความรู้ทั่วไปทางด้านทัศนศิลป์ ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 50 คะแนน และเนื้อหาวาดเส้น ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 คะแนน ทั้งนี้ให้ผู้เข้าสอบเตรียมอุปกรณ์สำหรับสอบดังนี้
4.1 อุปกรณ์การวาดเขียน ได้แก่ ดินสอ EE หรือดินสอดำ 2B ขึ้นไป, ปากกา, ยางลบ, กบเหลาดินสอ, คลิปหนีบกระดาษ เป็นต้น
4.2 กระดานสำหรับรองวาดรูป ขนาด 40 x 60 c.m.
หมายเหตุ : - ห้ามผู้เข้าสอบนำภาพร่างเข้าห้องสอบ

- วิชาความรู้ทั่วไปทางทัศนศิลป์และวาดเส้น (FA1) ผู้สมัครจะต้องสมัครสอบตั้งแต่วันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์สำนักทะเบียนฯ โดยจะจัดสอบที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 10 มีนาคม 2562

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

หมายเหตุ : - วิชาความรู้ทั่วไปทางการออกแบบและปฏิบัติการ (FA3) ผู้สมัครจะต้องสมัครสอบตั้งแต่วันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์สำนักทะเบียนฯ โดยจะจัดสอบที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 10 มีนาคม 2562

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

หมายเหตุ : - วิชาความรู้ทั่วไปทางการออกแบบและปฏิบัติการ (FA3) ผู้สมัครจะต้องสมัครสอบตั้งแต่วันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์สำนักทะเบียนฯ โดยจะจัดสอบที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 10 มีนาคม 2562

2. มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ ปี 1-3 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.50

1. พิจารณาจากแฟ้มสะสมผลงานที่ประกอบไปด้วยผลงานศิลปะและการออกแบบของตนเอง ซึ่งรวบรวมไว้ภายในเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา (ยื่นพร้อมใบสมัคร)

ส่ง portfolio ประกอบด้วยผลงานศิลปะละผลงานออกแบบของตนเองที่รวบรวมไว้ภายในระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา

หมายเหตุ : แฟ้มสะสมผลงานตัวจริงให้นำมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• โครงการเรียนดีรับตรงทั่วประเทศ (สาขาวิชาการออกแบบ)

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

3. ต้องนำ Portfolio มานำเสนอในวันสอบสัมภาษณ์ โดยต้องประกอบด้วยผลงานภาพถ่ายที่ถ่ายขึ้นด้วยตนเองเท่านั้น และภาพกิจกรรมต่างๆที่เคยเข้าร่วมหรือเกียรติบัตร รางวัลที่เคยได้รับที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพ

หมายเหตุ : - แฟ้มประวัติผลงาน (Portfolio) ให้จัดทำเป็นรูปเล่มขนาด A4 เท่านั้น และมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้า

- ผลงานจริง เกียรติบัตรหรือรางวัลที่เคยได้รับให้นำมาเสนอต่อคณะกรรมการในวันสอบสัมภาษณ์

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• โครงการพิเศษคณะรับเอง

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. มีผลการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5เทอม) หรือผลการเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ 1-3 (5เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 

1. ต้องเข้ารับการทดสอบวิชาเฉพาะด้านสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อในวันที่เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ โดยผู้สมัครต้องผ่านการสอบคัดเลือกวิชาเฉพาะด้านสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ และสอบสัมภาษณ์ โดยมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 60 คะแนนขึ้นไป

2. ผู้สมัครต้องนำเสนอแฟ้มสะสมผลงาน(portfolio) ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ของผู้สมัคร ในวันที่เข้ารับการสอบสัมภาษณ์และทดสอบ

2. มีผลการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5เทอม) หรือผลการเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ 1-3 (5เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

1. ต้องเข้ารับการทดสอบวิชาเฉพาะด้านสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อในวันที่เข้ารับการสอบสัมภาษณ์ โดยผู้สมัครต้องผ่านการสอบคัดเลือกวิชาเฉพาะด้านสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ และสอบสัมภาษณ์ โดยมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน ต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 60 คะแนนขึ้นไป

2. ผู้สมัครต้องนำเสนอแฟ้มสะสมผลงาน(portfolio) ซึ่งเป็นผลงานสร้างสรรค์ของผู้สมัคร ในวันที่เข้ารับการสอบสัมภาษณ์และทดสอบ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3.ผู้สมัครต้องสอบวิชาเฉพาะ คือวิชา ความรู้ทั่วไปทางด้านทัศนศิลป์และวาดเส้น โดยมีสองเนื้อหา คือ สอบเนื้อหาความรู้ทั่วไปทางด้านทัศนศิลป์ ใช้เวลาสอบ 1 ชั่วโมง 50 คะแนน และเนื้อหาวาดเส้น ใช้เวลา 1 ชั่วโมง 50 คะแนน ทั้งนี้ผู้เข้าสอบต้องได้คะแนนในส่วนวาดเส้นไม่น้อยกว่า 20 คะแนน จึงจะถือว่าผ่านการคัดเลือก

หมายเหตุ : - วิชาความรู้ทั่วไปทางทัศนศิลป์และวาดเส้น (FA1) ผู้สมัครจะต้องสมัครสอบตั้งแต่วันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์สำนักทะเบียนฯ โดยจะจัดสอบที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 10 มีนาคม 2562

หมายเหตุ : แฟ้มสะสมผลงานให้นำมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. ผู้เข้าสอบต้องได้คะแนนในส่วนวาดเส้นไม่น้อยกว่า 20 คะแนน

หมายเหตุ : วิชาความรู้ทั่วไปทางทัศนศิลป์และวาดเส้น (FA1) ผู้สมัครจะต้องสมัครสอบตั้งแต่วันที่ 4-10 กุมภาพันธ์ 2562 ทางเว็บไซต์สำนักทะเบียนฯ โดยจะจัดสอบที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันที่ 10 มีนาคม 2562

6.เอกสารรับรองความรู้ด้านภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• การเตรียม port สาขาสหศาสตร์ศิลป์

4. มีผลการเรียนเฉลี่ยกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ (GPA)(5เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

3. ต้องมีผลการเรียนเฉลี่ยกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ (GPA) 5 ภาคการเรียน ไม่ต่ำกว่า 2.50
4. กำหนดให้ส่งแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) จำนวนไม่เกิน 10 หน้า โดยมีรายละเอียดครบถ้วนดังเอกสารแนบ มาพร้อมในการสมัคร
5. กำหนดให้ส่งเอกสารรับรองความรู้ด้านภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)
6.กำหนดให้ส่งสมุดรวบรวมเอกสาร เกียรติบัตร ในความสามารถพิเศษ (ถ้ามี)
7.มีการสอบสัมภาษณ์และการทดสอบทักษะความสามารถในทางสหศาสตร์ศิลป์ในวันสอบสัมภาษณ์ โดยต้องมีผลการสอบไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 คะแนนขึ้นไป จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน

8.การสอบสัมภาษณ์ หากผู้สมัครมีความประสงค์จะนำเสนอผลงาน อาทิ ผลงานวิดิโอ ให้นำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์พกพาได้ และการส่งแฟ้มผลงานนั้นจะต้องยึดถือหลักเกณฑ์ ข้อกำหนด และรายละเอียดสำคัญอย่างเคร่งครัดและรอบคอบหากผู้สมัครไม่ทำตามเกณฑ์ที่กำหนด ผู้สมัครจะไม่ได้รับการพิจารณาให้คะแนนในส่วนของแฟ้มสะสมผลงาน แฟ้มสะสมผลงานที่ทำการพิจารณาแล้วเสร็จในกระบวนการรับสมัคร ให้ผู้สมัครติดต่อขอรับแฟ้มผลงานคืนได้ด้วยตนเองที่ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันและเวลาราชการ

5.1 แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ประกอบด้วย
5.1.1 แฟ้มสะสมผลงานควรนำเสนอผลงานทางด้านศิลปะ และ / หรือ การออกแบบที่แสดงถึงความเป็นตัวตน และความสามารถของผู้สมัคร
5.1.2 แฟ้มสะสมผลงานควรอธิบายถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงของกระบวนวิธีคิดและทักษะการสร้างสรรค์ผลงาน
5.1.3 แฟ้มสะสมผลงานควรเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ในช่วงเวลา 2 - 3 ปี ก่อนการสมัครเข้าศึกษา
5.1.4 แฟ้มสะสมผลงานต้องมีการนำเสนอผลงานการวาดเส้นต้องเป็นผลงานจริง (Original) ไม่ต่ำกว่า 50% ของผลงานทั้งหมด
5.1.5 แฟ้มสะสมผลงานหากไม่สามารถนำเสนอผลงานจริง (Original) ได้นั้น ให้นำเสนอด้วยภาพถ่ายได้แต่ไม่เกิน 50% ของผลงานทั้งหมด
5.1.6 แฟ้มสะสมผลงานต้องส่งเป็นแบบรูปเล่มและนำเสนอผลงานลงบนกระดาษขนาด A4 เท่านั้น
5.1.7 แฟ้มสะสมผลงานต้องมีการระบุ ชื่อ - นามสกุล ของผู้สมัครสอบให้ชัดเจนบนปกหน้าของแฟ้มสะสมผลงาน
5.1.8 แฟ้มสะสมผลงานอีเลคทรอนิคส์ หรือ ePortfolio ให้ผู้สมัครส่งไฟล์บรรจุในอุปกรณ์บันทึกแนบมา (กรณีเพิ่มเติม)
5.1.9 แฟ้มสะสมผลงานทางหลักสูตรสาขาวิชาสหศาสตร์ศิลป์ไม่รับผลงานและการรับรองที่มาจากโรงเรียนกวดวิชา
5.1.10 การสอบสัมภาษณ์ หากผู้สมัครมีความประสงค์จะนำเสนอผลงาน อาทิ ผลงานวีดิโอ ให้นำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์พกพาได้ และการส่งแฟ้มผลงานนั้นจะต้องยึดถือหลักเกณฑ์ ข้อกำหนด
และรายละเอียดสำคัญอย่างเคร่งครัดและรอบคอบหากผู้สมัครไม่ทำตามเกณฑ์ที่กำหนด ผู้สมัครจะไม่ได้รับการพิจารณาให้คะแนนในส่วนของแฟ้มสะสมผลงาน
แฟ้มสะสมผลงานที่ทำการพิจารณาแล้วเสร็จในกระบวนการรับสมัคร ให้ผู้สมัครติดต่อขอรับแฟ้มผลงานคืนได้ด้วยตนเองที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันและเวลาราชการ

6.มีเอกสารรับรองความรู้ด้านภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• การเตรียม port สาขาสหศาสตร์ศิลป์

2. มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPA) 5 เทอม ไม่น้อยกว่า 2.50

3. มีผลการเรียนเฉลี่ยกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ (GPA) 5 เทอม ไม่น้อยกว่า 2.50

3. กำหนดให้ส่งแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ที่มีรายละเอียดครบถ้วนดังเอกสารแนบ มาพร้อมในการสมัคร จำนวนไม่เกิน 10 หน้า
4. กำหนดให้ส่งเอกสารรับรองความรู้ด้านภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)
5. กำหนดให้ส่งสมุดรวบรวมเอกสาร เกียรติบัตร ในความสามารถพิเศษ (ถ้ามี)
6. มีการสอบสัมภาษณ์และการทดสอบทักษะความสามารถในทางสหศาสตร์ศิลป์ ต้องมีผลการสอบไม่น้อยกว่า 60 คะแนน
7. การสอบสัมภาษณ์ หากผู้สมัครมีความประสงค์จะนำเสนอผลงาน อาทิ ผลงานวิดิโอ ให้นำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์พกพาได้
8. การส่งแฟ้มผลงานนั้นจะต้องยึดถือหลักเกณฑ์ ข้อกำหนด และรายละเอียดสำคัญอย่างเคร่งครัดและรอบคอบ
9. หากผู้สมัครไม่ทำตามเกณฑ์ที่กำหนด ผู้สมัครจะไม่ได้รับการพิจารณาให้คะแนนในส่วนของแฟ้มสะสมผลงาน
10. แฟ้มสะสมผลงานที่ทำการพิจารณาแล้วเสร็จในกระบวนการรับสมัคร ให้ผู้สมัครติดต่อขอรับแฟ้มผลงานคืนได้ด้วยตนเองที่ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันและเวลาราชการ

11.ผู้เข้าสอบต้องได้คะแนนในส่วนวาดเส้นไม่น้อยกว่า 20 คะแนน 

5.1 แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ประกอบด้วย
5.1.1 แฟ้มสะสมผลงานควรนำเสนอผลงานทางด้านศิลปะ และ / หรือ การออกแบบที่แสดงถึงความเป็นตัวตน และความสามารถของผู้สมัคร
5.1.2 แฟ้มสะสมผลงานควรอธิบายถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงของกระบวนวิธีคิดและทักษะการสร้างสรรค์ผลงาน
5.1.3 แฟ้มสะสมผลงานควรเป็นผลงานที่สร้างสรรค์ในช่วงเวลา 2 - 3 ปี ก่อนการสมัครเข้าศึกษา
5.1.4 แฟ้มสะสมผลงานต้องมีการนำเสนอผลงานการวาดเส้นต้องเป็นผลงานจริง (Original) ไม่ต่ำกว่า 50% ของผลงานทั้งหมด
5.1.5 แฟ้มสะสมผลงานหากไม่สามารถนำเสนอผลงานจริง (Original) ได้นั้น ให้นำเสนอด้วยภาพถ่ายได้แต่ไม่เกิน 50% ของผลงานทั้งหมด
5.1.6 แฟ้มสะสมผลงานต้องส่งเป็นแบบรูปเล่มและนำเสนอผลงานลงบนกระดาษขนาด A4 เท่านั้น
5.1.7 แฟ้มสะสมผลงานต้องมีการระบุ ชื่อ - นามสกุล ของผู้สมัครสอบให้ชัดเจนบนปกหน้าของแฟ้มสะสมผลงาน
5.1.8 แฟ้มสะสมผลงานอีเลคทรอนิคส์ หรือ ePortfolio ให้ผู้สมัครส่งไฟล์บรรจุในอุปกรณ์บันทึกแนบมา (กรณีเพิ่มเติม)
5.1.9 แฟ้มสะสมผลงานทางหลักสูตรสาขาวิชาสหศาสตร์ศิลป์ไม่รับผลงานและการรับรองที่มาจากโรงเรียนกวดวิชา
5.1.10 การสอบสัมภาษณ์ หากผู้สมัครมีความประสงค์จะนำเสนอผลงาน อาทิ ผลงานวีดิโอ ให้นำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์พกพาได้ และการส่งแฟ้มผลงานนั้นจะต้องยึดถือหลักเกณฑ์ ข้อกำหนด
และรายละเอียดสำคัญอย่างเคร่งครัดและรอบคอบหากผู้สมัครไม่ทำตามเกณฑ์ที่กำหนด ผู้สมัครจะไม่ได้รับการพิจารณาให้คะแนนในส่วนของแฟ้มสะสมผลงาน
แฟ้มสะสมผลงานที่ทำการพิจารณาแล้วเสร็จในกระบวนการรับสมัคร ให้ผู้สมัครติดต่อขอรับแฟ้มผลงานคืนได้ด้วยตนเองที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในวันและเวลาราชการ
6.มีเอกสารรับรองความรู้ด้านภาษาอังกฤษ (ถ้ามี)

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• การเตรียม port สาขาสหศาสตร์ศิลป์

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3. ส่ง Portfolio พร้อมใบสมัคร ที่แสดงถึงประวัติและผลงานด้านศิลปการดนตรีและการแสดง โดยแสดงให้เห็นถึงงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังอย่างชัดเจน

หมายเหตุ : - แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ให้จัดทำเป็นรูปเล่มขนาด A4 เท่านั้น และมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้า

1. มีการสอบภาคปฏิบัติในวันที่สอบสัมภาษณ์ เฉพาะผู้ที่ผ่านการคัดเลือกโดยแฟ้มสะสมผลงาน(portfolio)

2. ผู้เข้าสอบต้องแสดงความสามารถด้านดนตรีหรือการแสดง และสัมภาษณ์โดยคณะกรรมการ

3. คณะกรรมการคัดเลือกจะพิจารณาผู้เข้าสอบเป็นรายบุคคล ดังนั้นข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพของผู้สมัคร มีผลต่อการพิจารณา 

    ผู้สมัครควรมีความพร้อมในด้านคุณสมบัติและความสามารถ มีปฎิภาณไหวพริบ สามารถแก้ไขสถาณการณ์เฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. ไม่เป็นผู้พิการ (ทุกประเภท) และตาบอดสี เนื่องจากกระบวนวิชาในหลักสูตรมีการฝึกปฏิบัติทั้งในห้องปฏิบัติการและนอกสถานที่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้เรียนและมีกระบวนวิชาฝึกปฏิบัติที่ทำให้ผู้เรียนเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ

1. ไม่เป็นผู้พิการ (ทุกประเภท) และตาบอดสี เนื่องจากกระบวนวิชาในหลักสูตรมีการฝึกปฏิบัติทั้งในห้องปฏิบัติการและนอกสถานที่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้เรียนและมีกระบวนวิชาฝึกปฏิบัติที่ทำให้ผู้เรียนเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3. ไม่เป็นผู้พิการ (ทุกประเภท) และตาบอดสี เนื่องจากกระบวนวิชาในหลักสูตรมีการฝึกปฏิบัติทั้งในห้องปฏิบัติการและนอกสถานที่ ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคต่อผู้เรียนและมีกระบวนวิชาฝึกปฏิบัติที่ทำให้ผู้เรียนเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิชาภาษาไทย,อังกฤษ และสังคม ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิชาภาษาไทย,อังกฤษ และสังคม ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรมจนเป็นที่ประจักษ์ และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชนและสังคมมาโดยตลอด

6. ต้องส่งแฟ้มสะสมผลงานและ/หรือประกาศเกียรติคุณ ที่แสดงว่าเป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรม จนเป็นที่ประจักษ์และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชน โดยมีหนังสือรับรองจากผุ้บริหารสถานศึกษาที่นักเรียนศึกษาอยู่ เป็นผู้รับรอง ซึ่งหนังสือรับรองต้องบรรจุซองปิดผนึกพร้อมเซ็นสลักหลังซอง
7. ให้โรงเรียนออกหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัคร พร้อมเอกสารประกอบการสมัครเพียงโรงเรียนละ 1 คน เท่านั้น หากไม่มีหนังสือส่ง รายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน จะไม่ได้รับการพิจารณาใบสมัคร

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองจากโรงเรียนและผู้นำชุมชน

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองจากโรงเรียนและผู้นำชุมชน

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรมจนเป็นที่ประจักษ์ และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชนและสังคมมาโดยตลอด

6. ต้องส่งแฟ้มสะสมผลงานและ/หรือประกาศเกียรติคุณ ที่แสดงว่าเป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรม จนเป็นที่ประจักษ์
และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชน โดยมีหนังสือรับรองจากผุ้บริหารสถานศึกษาที่นักเรียนศึกษาอยู่ เป็นผู้รับรอง ซึ่งหนังสือรับรองต้องบรรจุซองปิดผนึกพร้อมเซ็นสลักหลังซอง
7. ให้โรงเรียนออกหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัคร พร้อมเอกสารประกอบการสมัครเพียงโรงเรียนละ 1 คน เท่านั้น หากไม่มีหนังสือส่ง
รายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน จะไม่ได้รับการพิจารณาใบสมัคร

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองจากโรงเรียนและผู้นำชุมชน

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรมจนเป็นที่ประจักษ์ และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชนและสังคมมาโดยตลอด

6. ต้องส่งแฟ้มสะสมผลงานและ/หรือประกาศเกียรติคุณ ที่แสดงว่าเป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรม จนเป็นที่ประจักษ์และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชน โดยมีหนังสือรับรองจากผุ้บริหารสถานศึกษาที่นักเรียนศึกษาอยู่ เป็นผู้รับรอง ซึ่งหนังสือรับรองต้องบรรจุซองปิดผนึกพร้อมเซ็นสลักหลังซอง
7. ให้โรงเรียนออกหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัคร พร้อมเอกสารประกอบการสมัครเพียงโรงเรียนละ 1 คน เท่านั้น หากไม่มีหนังสือส่ง รายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน จะไม่ได้รับการพิจารณาใบสมัคร

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองจากโรงเรียนและผู้นำชุมชน

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรมจนเป็นที่ประจักษ์ และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชนและสังคมมาโดยตลอด

6. ต้องส่งแฟ้มสะสมผลงานและ/หรือประกาศเกียรติคุณ ที่แสดงว่าเป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรม จนเป็นที่ประจักษ์ และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชน โดยมีหนังสือรับรองจากผุ้บริหารสถานศึกษาที่นักเรียนศึกษาอยู่ เป็นผู้รับรอง ซึ่งหนังสือรับรองต้องบรรจุซองปิดผนึกพร้อมเซ็นสลักหลังซอง
7. ให้โรงเรียนออกหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัคร พร้อมเอกสารประกอบการสมัครเพียงโรงเรียนละ 1 คน เท่านั้น หากไม่มีหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน จะไม่ได้รับการพิจารณาใบสมัคร

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองจากโรงเรียนและผู้นำชุมชน

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรมจนเป็นที่ประจักษ์ และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชนและสังคมมาโดยตลอด

6. ต้องส่งแฟ้มสะสมผลงานและ/หรือประกาศเกียรติคุณ ที่แสดงว่าเป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรม จนเป็นที่ประจักษ์ และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชน โดยมีหนังสือรับรองจากผุ้บริหารสถานศึกษาที่นักเรียนศึกษาอยู่ เป็นผู้รับรอง ซึ่งหนังสือรับรองต้องบรรจุซองปิดผนึกพร้อมเซ็นสลักหลังซอง
7. ให้โรงเรียนออกหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัคร พร้อมเอกสารประกอบการสมัครเพียงโรงเรียนละ 1 คน เท่านั้น หากไม่มีหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน จะไม่ได้รับการพิจารณาใบสมัคร

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองจากโรงเรียนและผู้นำชุมชน

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรมจนเป็นที่ประจักษ์ และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชนและสังคมมาโดยตลอด

6. ต้องส่งแฟ้มสะสมผลงานและ/หรือประกาศเกียรติคุณ ที่แสดงว่าเป็นผู้ที่กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรม จนเป็นที่ประจักษ์ และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชน โดยมีหนังสือรับรองจากผุ้บริหารสถานศึกษาที่นักเรียนศึกษาอยู่ เป็นผู้รับรอง ซึ่งหนังสือรับรองต้องบรรจุซองปิดผนึกพร้อมเซ็นสลักหลังซอง
7. ให้โรงเรียนออกหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัคร พร้อมเอกสารประกอบการสมัครเพียงโรงเรียนละ 1 คน เท่านั้น หากไม่มีหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน จะไม่ได้รับการพิจารณาใบสมัคร

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองจากโรงเรียนและผู้นำชุมชน

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3. มีผลการเรียนฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิชาวิทยาศาสตร์และวิชาคณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 3.25

3. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือ

4. เป็นผู้ผ่านการสอบวัดสมรรถนะทางวิชาการและ การคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2562 และมีคะแนนเปอร์เซ็นไทล์ ตั้งแต่ 85 ขึ้นไป ซึ่งดำเนินการตามความร่วมมือระหว่าง สสวท. กับมหาวิทยาลัย

หมายเหตุ

ผู้ได้รับทุน จะได้รับทุนสนับสนุนการศึกษาตามรายละเอียดและเงื่อนไขของผู้ได้รับทุนในโครงการ พสวท. โดยรวมถึง ค่าบำรุงการศึกษา ค่าหนังสืออ่านประกอบ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ตลอดจนการสนับสนุนการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาตนเอง การไปทำวิจัย และการเสนอผลงานทางวิชาการ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

3. เป็นผู้พิการซึ่งมีบัตรประจำตัวผู้พิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

4. เป็นผู้บกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ มีแขน 1 ข้างที่สามารถใช้งานในการเขียนหรือพิมพ์ได้ (รับ 1 คน)  หรือ เป็นผู้บกพร่องทางการได้ยิน (หูตึงใช้เครื่องช่วยฟัง) (รับ 1 คน)

6.บัตรประจำตัวผู้พิการ

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3. ผู้สมัครและบิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดที่สมัคร (จังหวัดภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน เชียงราย พะเยา และแม่ฮ่องสอน) ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี จนถึงวันสุดท้ายที่รับสมัคร โดยมีทะเบียนบ้านเป็นหลักฐาน (หากบิดาหรือมารดาที่เป็นข้าราชการต้องโยกย้ายให้มีเอกสารยืนยันการโยกย้าย)
*หมายเหตุ.- กรณีที่ผู้สมัคร หรือผู้ปกครองมีการย้ายทะเบียนบ้านภายในจังหวัดเดียวกัน หรือภายใน 8 จังหวัดภาคเหนือที่มีระยะเวลาการย้ายไม่ถึง 5 ปี ให้ผู้สมัครแสดงสำเนาทะเบียนบ้านหลังเดิมหรือหลักฐานการ ย้ายเข้า-ออก ของทะเบียนบ้านหลังเดิมมาด้วย
4. ผู้สมัครต้องเป็นนักเรียนที่ศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายตลอดหลักสูตร และกำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2561 ในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในจังหวัดที่สมัคร หรือโรงเรียนกลุ่มจังหวัดไม่เกินในเขตพื้นที่ดังกล่าว
5. มีเกรดเฉลี่ยในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 แต่ละชั้นปีไม่ต่ำกว่า 3.25 (ให้แสดงหลักฐานเกรดเฉลี่ยชั้นม.4 และชั้น ม.5 แยกกัน และให้โรงเรียนรับรองเอกสาร)
6. ผู้สมัครต้องมีคะแนนรวม 7 วิชาสามัญสายวิทย์ฯ ไม่น้อยกว่า 350 คะแนน จาก 700 คะแนน และแต่ละวิชาต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 35% ยกเว้นภาษาอังกฤษไม่น้อยกว่า 50%

7. จำนวนและพื้นที่การรับนักศึกษาแพทย์โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท กลุ่มแพทย์เพื่อชุมชน (CPIRD : Community track) โดยประมาณ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนการรับได้)

จังหวัด     จำนวนรับ              การฝึกปฏิบัติงานในชั้นคลินิก (ปี 4-6)

เชียงใหม่      18             ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลลำปาง /ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลเชียงราย
ลำปาง         12            ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลลำปาง
แม่ฮ่องสอน    4              ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลลำปาง
ลำพูน          4             ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลลำปาง
แพร่            4             ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิก โรงพยาบาลลำปาง
เชียงราย      16             ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลเชียงราย
น่าน           12             ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลเชียงราย
พะเยา          4              ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลเชียงราย
รวม 74

5. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร

6. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ปกครอง (ที่ใช้สิทธิ์) 

3. ผู้สมัครและบิดาหรือมารดา หรือผู้ปกครองโดยชอบด้วยกฎหมาย ต้องมีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตอำเภอเมืองในจังหวัดนั้นๆ (จังหวัดภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ น่าน เชียงราย พะเยา และแม่ฮ่องสอน) โดยมีทะเบียนบ้านเป็นหลักฐาน ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 5 ปี จนถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร (หากบิดาหรือมารดาที่เป็นข้าราชการต้องโยกย้ายให้มีเอกสารยืนยันการโยกย้าย)
(ยกเว้นจังหวัดแม่ฮ่องสอน และน่าน ให้สิทธิ์นักเรียนที่มีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตอำเภอเมืองและในเขตอำเภอเมืองได้ หากไม่สามารถรับนักเรียนที่มีภูมิลำเนาอยู่นอกเขตอำเภอเมืองได้ครบตามโควตาที่กำหนด จะรับนักเรียนที่มีภูมิลำเนาในเขตอำเภอเมือง)
*หมายเหตุ.- กรณีที่ผู้สมัคร หรือผู้ปกครองมีการย้ายทะเบียนบ้านภายในจังหวัดเดียวกัน หรือภายใน 8 จังหวัดภาคเหนือที่มีระยะเวลาการย้ายไม่ถึง 5 ปี ให้ผู้สมัครแสดงสำเนาทะเบียนบ้านหลังเดิมหรือหลักฐานการย้ายเข้า-ออก ของทะเบียนบ้านหลังเดิมมาด้วย
4. ผู้สมัครต้องเป็นนักเรียนที่ศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายตลอดหลักสูตร และกำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2561 ในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเดียวกันกับภูมิลำเนาของผู้สมัคร ทั้งนี้จะพิจารณารับนักเรียนที่เรียนในโรงเรียนนอกเขตอำเภอเมืองก่อน หากไม่สามารถรับได้ครบตามโควตาที่กำหนด จะรับนักเรียนที่เรียนในโรงเรียนในเขตอำเภอเมือง
5. มีเกรดเฉลี่ยในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และ 5 แต่ละชั้นปีไม่ต่ำกว่า 3.25 (ให้แสดงหลักฐานเกรดเฉลี่ยชั้น ม.4
และชั้นม.5 แยกกัน และให้โรงเรียนรับรองเอกสาร)
6. ผู้สมัครต้องมีคะแนนรวม 7 วิชาสามัญสายวิทย์ฯ ไม่น้อยกว่า 315 คะแนน จาก 700 คะแนน และแต่ละวิชาต้องได้คะแนนไม่น้อยกว่า 35% ยกเว้นภาษาอังกฤษไม่น้อยกว่า 40%

7. จำนวนและพื้นที่การรับนักศึกษาแพทย์โครงการผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท กลุ่มลดความเหลื่อมล้ำ (CPIRD : Inclusive track) โดยประมาณ (อาจมีการเปลี่ยนแปลงจำนวนการรับได้)

จังหวัด        จำนวนรับ                 การฝึกปฏิบัติงานในชั้นคลินิก (ปี 4-6)

เชียงใหม่          6                 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลลำปาง /ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลเชียงราย
ลำปาง            2                 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลลำปาง
แม่ฮ่องสอน      1                 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลลำปาง
ลำพูน            1                 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลลำปาง
แพร่              2                 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลลำปาง
เชียงราย         6                  ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลเชียงราย
น่าน              2                 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลเชียงราย
พะเยา            2                 ศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกโรงพยาบาลเชียงราย

รวม 22 คน

5. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร

6. สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ปกครอง(ที่ใช้สิทธิ์)

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายสามัญ หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) แต่ละกลุ่มไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) แต่ละกลุ่มไม่น้อยกว่า 2.50

3. มีบิดา/มารดาที่มีชีวิตอยู่มีอาชีพเป็นเกษตรกร

5. หนังสือรับรองอาชีพบิดา/มารดา

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองอาชีพบิดามารดา

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายสามัญ หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) แต่ละกลุ่มไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) แต่ละกลุ่มไม่น้อยกว่า 2.50

3. ต้องเป็นทายาทโดยกำเนิดของนักศึกษาเก่าคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

5. หนังสือรับรองหรือหลักฐานอย่างชัดเจนการเป็นทายาทนักศึกษาเก่าคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองการเป็นทายาทนักศึกษาเก่าคณะเกษตรศาสตร์

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 

2.เป็นผู้ที่มีข้อบกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพแต่สามารถเรียนได้และปฏิบัติการในห้องปฏิบัติการได้

3. เป็นผู้บกพร่องทางการได้ยิน (หูตึงใช้เครื่องช่วยฟัง)

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายสามัญ หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) แต่ละกลุ่มไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) แต่ละกลุ่มไม่น้อยกว่า 2.50

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 

2.เป็นผู้ที่มีข้อบกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพแต่สามารถเรียนได้และปฏิบัติการในห้องปฏิบัติการได้

3. เป็นผู้บกพร่องทางการได้ยิน (หูตึงใช้เครื่องช่วยฟัง)

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายสามัญ หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) แต่ละกลุ่มไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) แต่ละกลุ่มไม่น้อยกว่า 2.50

4. มีบิดา/มารดาที่มีชีวิตอยู่มีอาชีพเป็นเกษตรกร

5. หนังสือรับรองอาชีพบิดา/มารดา

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองอาชีพบิดามารดา

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายสามัญ หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) แต่ละกลุ่มไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และกลุ่มสาระคณิตศาสตร์ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) แต่ละกลุ่มไม่น้อยกว่า 2.50

3. ต้องเป็นทายาทโดยกำเนิดของนักศึกษาเก่าคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

5. หนังสือรับรองหรือหลักฐานอย่างชัดเจนการเป็นทายาทนักศึกษาเก่าคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• หนังสือรับรองการเป็นทายาทนักศึกษาเก่าคณะเกษตรศาสตร์

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3. ไม่เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต ที่กำลังศึกษาในสถาบันอื่น ๆ ของรัฐ เว้นแต่ได้ลาออกก่อนที่จะไปสมัครสอบคัดเลือกเข้าศึกษาต่อในหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต
4. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง โดยไม่เป็นโรคหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา และการประกอบวิชาชีพ

2. ต้องมีสุขภาพสมบูรณ์ และปราศจากโรค หรือความพิการที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพทันตกรรม ดังนี้
2.1 มีความพิการทางร่างกายอันอาจเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพ
ทันตกรรม เช่น ตาบอด เป็นใบ้ หรือหูหนวกทั้งสองข้าง มีความพิการของนิ้วมือ มือแขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและทำงาน หรือภาวะพิการอื่นใด ซึ่งมิได้ระบุไว้ในระเบียบนี้ที่คณะกรรมการสอบคัดเลือกเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
2.2 มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรงอันอาจเป็นอันตรายต่อตนเอง และ/หรือผู้อื่น เช่น โรคจิต (Psychotic Disorders) กลุ่มอาการออทิสซึม (Autistic Spectrum) โรคอารมณ์ผิดปกติ (Mood Disorders) โรคประสาทรุนแรง (Severe Neurotic Disorders) โรคบุคลิกภาพผิดปกติ (Personality Disorders) โดยเฉพาะ Antisocial Personality Disorders หรือ Borderline Personality Disorders รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพทันตกรรม
2.3 เป็นโรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเอง ต่อผู้ป่วย หรือ ส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพทันตกรรม
2.4 เป็นโรคไม่ติดต่อ หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเอง ต่อผู้ป่วย และการประกอบวิชาชีพทันตกรรม เช่น
- โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยมีการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
- โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการเรียนและการประกอบวิชาชีพ โรคภาวะความดันโลหิต ผิดปกติในระดับรุนแรงและมี ภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
- ภาวะไตวายเรื้อรัง
- โรคติดสารเสพติดให้โทษ
- โรค หรือภาวะอื่น ๆ ที่คณะกรรมการสอบสัมภาษณ์ หรือกรรมการตรวจร่างกายเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพทันตกรรม
2.5 มีความผิดปกติในการเห็นภาพ โดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
- ไม่มีภาวะตาบอดสีระดับรุนแรง หรือภาวะตาพร่องสีระดับรุนแรง โดยมีผลตรวจ FRANSWORTH D 15 hue test มีเส้นตัดขวางมากกว่าหรือเท่ากับ 10 เส้น ตามแนวทางการตรวจตาบอดสีของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย (ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการองค์กรผู้บริหารคณะทันตแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (อ.บ.ท.ท.) ครั้งที่ 9/2559 วันที่ 9 ธันวาคม 2559)
- ระดับการมองเห็นในตาข้างดี แย่กว่า 6/12 หรือ 20/40
หมายเหตุ
1. ในกรณีที่ผู้เข้าศึกษาให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูล หรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลัง จะต้องถูกตัดสิทธิ์การเข้าศึกษา
2. การพิจารณาตัดสิทธิ์ผู้เข้าศึกษาด้วยเหตุผลคุณสมบัติด้านสุขภาพ ต้องดำเนินการโดยคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยกรรมการจำนวนไม่น้อยกว่า 5 คนและผ่านการพิจารณาจาก คณะกรรมการบริหารประจำคณะทันตแพทยศาสตร์ ผลการพิจารณาถือเป็นที่สิ้นสุด
3. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องได้รับการตรวจร่างกาย โดยหน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดังต่อไปนี้
(1) ตรวจร่างกาย
(2) การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
(3) การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น การมองเห็นภาพสามมิติ
(4) การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
(5) การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• แบบฟอร์มตรวจสุขภาพ
• เงื่อนไขการเข้าศึกษาหลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3. เป็นผู้สามารถทำสัญญากับราชการในการเป็นนักศึกษาเพื่อศึกษาวิชาเภสัชศาสตร์ได้ สาระสำคัญมีดังนี้

1. หลังจากสําเร็จการศึกษาแล้วจะต้องเข้ารับราชการ หรือ ทํางานหรือ เข้ารับการฝึกอบรมเพิ่มเติมตามคําสั่งของสํานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือคณะกรรมการพิจารณาจัดสรรนักศึกษาของสาขาวิชาที่ตนศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปีติดต่อกัน ในกรณีที่ทางราชการไม่มีตำแหน่งเพียงพอที่จะรองรับก็อาจสั่งไม่บรรจุเป็นข้าราชการได้
2. หากไม่ยินยอมเข้ารับราชการ หรือทำงาน หรือเข้ารับการฝึกอบรมภายในเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด ตามคำสั่งดังกล่าว จะต้องชดใช้ให้แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท (สองแสนห้าหมื่นบาท)
3. หากสำเร็จการศึกษาแล้วไม่สามารถเข้ารับราชการหรือทำงานได้เพราะขาดคุณสมบัติตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 ต้องยินยอมชดใช้เงินให้แก่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นจำนวนเงินตามข้อ 4.2.2 ภายใน 15 วันนับแต่วันประพฤติผิดสัญญา

4. ต้องมีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ และปราศจากโรค อาการของโรค หรือความพิการที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติการ และการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ดังนี้

1. ปราศจากปัญหาทางจิตเวชรุนแรงอันอาจเป็นอันตรายต่อตนเอง และ/หรือผู้อื่น เช่น โรคจิต (Psychotic Disorders) กลุ่มอาการออทิสซึม (Autistic Spectrum) โรคอารมณ์ผิดปกติ (Mood Disorders) โรคประสาทรุนแรง (Severe Neurosis Disorders) โรคบุคลิกภาพผิดปกติ (Personality Disorders) โดยเฉพาะ Antisocial Personality Disorders หรือ Borderline Personality Disorders รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาการปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
2. ปราศจากโรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเอง ต่อผู้ป่วย หรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
3. ปราศจากโรคไม่ติดต่อ หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเอง ต่อผู้ป่วย และการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม เช่น
1. โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยมีการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
2. โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการเรียนและการประกอบวิชาชีพ โรคภาวะความดันเลือดรุนแรงและมีภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
3. ภาวะไตวายเรื้อรัง
4. โรคติดสารเสพติดให้โทษ
5. โรคหรือความพิการอื่นๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ข้างต้น แต่คณะกรรมการแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย เห็นว่าเป็น อุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงานและการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ทั้งนี้ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์อาจแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคหรือผู้เชี่ยวชาญในแต่ละกรณีตรวจเพิ่มเติมได้
6. ใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
7. ปราศจากโรคติดต่อ หรือภาวะที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเอง ผู้อื่น และผู้ป่วยอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม
4. ไม่จำกัดสิทธิ์ผู้สอบผ่านการคัดเลือกที่มีตาพร่องสี และสถาบันจะกำหนดให้มีการตรวจตาพร่องสีตามวิธีการทดสอบที่สถาบันกำหนดเพิ่มเติม เพื่อให้คำปรึกษาในการเรียนและการประกอบวิชาชีพต่อไป

5. กรณีผู้เข้าศึกษาเป็นโรค หรือปรากฏอาการของโรค หรือความพิการที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาการปฏิบัติการและการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมดังกล่าวข้างต้นในระหว่างการศึกษา ผู้เข้าศึกษาต้องลาพักการเรียนเพื่อรักษาจนกว่าจะหายเป็นปกติ หรือสามารถควบคุมอาการของโรคตามคำรับรองของแพทย์จึงจะสามารถกลับเข้าเรียนต่อได้

หมายเหตุ

1. ผู้เข้าศึกษาให้ข้อมูลเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูล หรือแม้แต่ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลัง จะต้องถูกตัดสิทธิ์การศึกษา 
2. การพิจารณาตัดสิทธิ์ผู้เข้าศึกษาด้วยเหตุผลคุณสมบัติด้านสุขภาพ ให้ดำเนินการโดยคณะกรรมการบริหารประจำคณะเภสัชศาสตร์ และให้ถือเป็นที่สิ้นสุด 
3. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องตรวจสุขภาพ โดยหน่วยสร้างเสริมสุขภาพโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยต้องนำผลการตรวจร่างกายมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังต่อไปนี้ 
1. การตรวจร่างกาย 
2. การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR) 
3. การตรวจตาบอดสี 
4. การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภออมก๋อย
2. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภออมก๋อย
3. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากโรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่อำเภออมก๋อย ซึ่งประกอบด้วย 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม และโรงเรียนแม่ตื่นวิทยาคม โดยสำเร็จการศึกษามาแล้วไม่เกิน 2 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม
2. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม
3. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากโรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม โดยสำเร็จการศึกษามาแล้วไม่เกิน 2 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอด 6 ภาคการศึกษา และจบการศึกษามาแล้วไม่เกิน 3 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

2. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย) ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี
3. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย)
4. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00 หรือ
5. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภออมก๋อย
2. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภออมก๋อย
3. เป็นผู้กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากโรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่อำเภออมก๋อย ซึ่งประกอบด้วย 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม และโรงเรียนแม่ตื่นวิทยาคม โดยสำเร็จการศึกษามาแล้วไม่เกิน 2 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม
2. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม
3. เป็นผู้กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากโรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม โดยสำเร็จการศึกษามาแล้วไม่เกิน 2 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอด 6 ภาคการศึกษา และจบการศึกษามาแล้วไม่เกิน 3 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

2. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย) ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี
3. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย)
4. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00 หรือ
5. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภออมก๋อย
2. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภออมก๋อย
3. เป็นผู้กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากโรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่อำเภออมก๋อย ซึ่งประกอบด้วย 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม และโรงเรียนแม่ตื่นวิทยาคม โดยสำเร็จการศึกษามาแล้วไม่เกิน 2 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม
2. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม
3. เป็นผู้กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากโรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม โดยสำเร็จการศึกษามาแล้วไม่เกิน 2 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอด 6 ภาคการศึกษา และจบการศึกษามาแล้วไม่เกิน 3 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

2. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย) ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี
3. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย)
4. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00 หรือ
5. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประทศไทย จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ
3.2 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.3 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.4 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจตาบอดสี
เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
4.2.1 จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง
4.2.2 หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES จักษุแพทย์จะส่งไปตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติม โดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้
4.3 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.5 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.2 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.3 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.3 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.4 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภออมก๋อย
2. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภออมก๋อย
3. เป็นผู้กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากโรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่อำเภออมก๋อย ซึ่งประกอบด้วย 2 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม และโรงเรียนแม่ตื่นวิทยาคม โดยสำเร็จการศึกษามาแล้วไม่เกิน 2 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.2 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.3 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.3 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.4 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม
2. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม
3. เป็นผู้กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากโรงเรียนมัธยมศึกษาในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม โดยสำเร็จการศึกษามาแล้วไม่เกิน 2 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.2 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.3 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.3 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.4 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาศึกษาปีที่ 6 หรือ เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 กลุ่มการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ เท่านั้น จากสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอด 6 ภาคการศึกษา และจบการศึกษามาแล้วไม่เกิน 3 ปีก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

2. เป็นเยาวชนที่มีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย) ติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 ปี
3. บิดา มารดา หรือผู้อุปการะของเยาวชนมีภูมิลำเนา (มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย)
4. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00 หรือ
5. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.2 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.3 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.3 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.4 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

เกณฑ์เฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. เป็นผู้ที่ไม่มีสุขภาพหรือโรคประจำตัวหรือความพิการอื่นๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
3. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ดังต่อไปนี้
3.1 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
3.2 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
3.3 มีปัญหาในการพูดจา ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
4. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพ ณ หน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ และ ศูนย์บริการเทคนิคการแพทย์ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วนำผลมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังนี้
4.1 การตรวจร่างกาย
4.2 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
4.3 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
4.4 การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

3.เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
3.1 เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
3.2 เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
3.3 เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น

4. คุณสมบัติด้านสุขภาพของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
4.1 เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังต่อไปนี้

4.1.1 มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
4.1.2 มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง(severe neurosis) หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
4.1.3 โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่จะมีผลต่อผู้รับบริการหรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวรอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
4.1.4 โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

4.1.4.1 โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
4.1.4.2 โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
4.1.4.3 โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
4.1.4.4 ภาวะไตวายเรื้อรัง
4.1.4.5 โรคติดสารเสพติดให้โทษทุกชนิด

4.1.5 ตาบอดสี ชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
4.1.6 ความผิดปกติในการเห็นภาพโดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
4.1.6.1 สายตาไม่ปกติเมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วยังมีสายตาต่ำกว่า6/24 ทั้งสองข้าง
4.1.6.2 สายตาข้างดี ต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
4.1.7 มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบลจากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (sensory neural hearing loss ) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
4.1.8 โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
ทั้งนี้ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ อาจแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคตรวจบางรายเพิ่มเติมได้
หมายเหตุ
1. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องตรวจสุขภาพ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ โดยต้องนำผลการตรวจร่างกายมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังต่อไปนี้
1.1 ตรวจร่างกาย
1.2 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
1.3 การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น
1.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
1.5 การตรวจภูมิต้านทานโรคสุกใส
1.6 การตรวจการได้ยิน Audiogram เฉพาะรายที่แพทย์สั่งตรวจเนื่องจากสงสัยว่าจะมีปัญหาการได้ยิน
2. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องเข้ารับการทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI) ในวันสอบสัมภาษณ์ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์
3. หากไม่นำผลการตรวจร่างกายทั้งหมดมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์จะไม่มีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์
4. ผู้เข้าศึกษาที่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูล หรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลังจะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา
5. หากรายงานผลการตรวจร่างกาย ตามที่ระบุไว้มีข้อหนึ่งข้อใดที่ระบุว่าผิดปกติ หลังจากที่ผู้สมัครได้ผ่านการสอบสัมภาษณ์แล้ว ผู้สมัครจะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา

4.ต้องมีแฟ้มสะสมผลงานและ/หรือประกาศเกียรติคุณที่แสดงว่าเป็นผู้กระทำความดี มีคุณธรรม จริยธรรม จนเป็นที่ประจักษ์และอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือชุมชน โดยจะต้องจัดทำโครงการหรือกิจกรรมที่นอกเหนือจากที่โรงเรียนกำหนดให้ โดยมีหนังสือรับรองจากผู้บริหารสถานศึกษาที่นักเรียนศึกษาอยู่เป็นผู้รับรอง และจากผู้นำชุมชน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ซึ่งต้องมีหนังสือรับรองชื่อ-นามสกุล และตำแหน่งของผู้รับรองบรรจุซองปิดผนึกพร้อม เซ็นสลักหลังซอง ทั้งนี้ ให้โรงเรียนออกหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัคร พร้อมเอกสารประกอบการสมัคร เพียงโรงเรียนละ 1 คนเท่านั้น (หากไม่มีหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน จะไม่ได้รับการพิจารณาใบสมัคร)

5. คุณสมบัติด้านสุขภาพของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
5.1 เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังต่อไปนี้

5.1.1 มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
5.1.2 มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง(severe neurosis) หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
5.1.3 โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่จะมีผลต่อผู้รับบริการหรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวรอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
5.1.4 โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

5.1.4.1 โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
5.1.4.2 โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
5.1.4.3 โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
5.1.4.4 ภาวะไตวายเรื้อรัง
5.1.4.5 โรคติดสารเสพติดให้โทษทุกชนิด

5.1.5 ตาบอดสี ชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
5.1.6 ความผิดปกติในการเห็นภาพโดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
5.1.6.1 สายตาไม่ปกติเมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วยังมีสายตาต่ำกว่า6/24 ทั้งสองข้าง
5.1.6.2 สายตาข้างดี ต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
5.1.7 มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบลจากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (sensory neural hearing loss ) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
5.1.8 โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
ทั้งนี้ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ อาจแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคตรวจบางรายเพิ่มเติมได้
หมายเหตุ
1. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องตรวจสุขภาพ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ โดยต้องนำผลการตรวจร่างกายมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังต่อไปนี้
1.1 ตรวจร่างกาย
1.2 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
1.3 การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น
1.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
1.5 การตรวจภูมิต้านทานโรคสุกใส
1.6 การตรวจการได้ยิน Audiogram เฉพาะรายที่แพทย์สั่งตรวจเนื่องจากสงสัยว่าจะมีปัญหาการได้ยิน
2. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องเข้ารับการทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI) ในวันสอบสัมภาษณ์ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์
3. หากไม่นำผลการตรวจร่างกายทั้งหมดมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์จะไม่มีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์
4. ผู้เข้าศึกษาที่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูล หรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลังจะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา
5. หากรายงานผลการตรวจร่างกาย ตามที่ระบุไว้มีข้อหนึ่งข้อใดที่ระบุว่าผิดปกติ หลังจากที่ผู้สมัครได้ผ่านการสอบสัมภาษณ์แล้ว ผู้สมัครจะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา

2. เป็นบุตร/ธิดา ข้าราชการตำรวจตะเวนชายแดน หรือ เคยศึกษาในโรงเรียนตำรวจตะเวนชายแดน

3. คุณสมบัติเฉพาะตามสภาการพยาบาลกำหนด

4. รับสมัครสอบคัดเลือกโดยสภาการพยาบาล

5. คุณสมบัติด้านสุขภาพของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
5.1 เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังต่อไปนี้

5.1.1 มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
5.1.2 มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง(severe neurosis) หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
5.1.3 โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่จะมีผลต่อผู้รับบริการหรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวรอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
5.1.4 โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

5.1.4.1 โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
5.1.4.2 โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
5.1.4.3 โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
5.1.4.4 ภาวะไตวายเรื้อรัง
5.1.4.5 โรคติดสารเสพติดให้โทษทุกชนิด

5.1.5 ตาบอดสี ชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
5.1.6 ความผิดปกติในการเห็นภาพโดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
5.1.6.1 สายตาไม่ปกติเมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วยังมีสายตาต่ำกว่า6/24 ทั้งสองข้าง
5.1.6.2 สายตาข้างดี ต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
5.1.7 มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบลจากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (sensory neural hearing loss ) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
5.1.8 โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
ทั้งนี้ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ อาจแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคตรวจบางรายเพิ่มเติมได้
หมายเหตุ
1. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องตรวจสุขภาพ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ โดยต้องนำผลการตรวจร่างกายมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังต่อไปนี้
1.1 ตรวจร่างกาย
1.2 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
1.3 การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น
1.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
1.5 การตรวจภูมิต้านทานโรคสุกใส
1.6 การตรวจการได้ยิน Audiogram เฉพาะรายที่แพทย์สั่งตรวจเนื่องจากสงสัยว่าจะมีปัญหาการได้ยิน
2. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องเข้ารับการทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI) ในวันสอบสัมภาษณ์ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์
3. หากไม่นำผลการตรวจร่างกายทั้งหมดมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์จะไม่มีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์
4. ผู้เข้าศึกษาที่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูล หรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลังจะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา
5. หากรายงานผลการตรวจร่างกาย ตามที่ระบุไว้มีข้อหนึ่งข้อใดที่ระบุว่าผิดปกติ หลังจากที่ผู้สมัครได้ผ่านการสอบสัมภาษณ์แล้ว ผู้สมัครจะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา

2.สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าโดย

2.1 หลักสูตรการศึกษาในโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2544 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2533) ในหมวดวิชาเลือกเสรีให้รวมวิทยาศาสตร์ (โครงสร้าง

2) 25 หน่วยการเรียน หรือ วิทยาศาสตร์(โครงสร้าง 3) 21 หน่วยการเรียน คณิตศาสตร์ (โครงสร้าง 1) 15 หน่วยการเรียน ภาษาอังกฤษ 12 หน่วยการเรียน หรือ

2.2 หลักสูตรการศึกษาในโรงเรียนที่ใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544 หรือหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต้องเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติมรวมกันไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ต้องเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติม รวมกันไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ต้องเรียนรายวิชาพื้นฐานและรายวิชาเพิ่มเติม รวมกันไม่น้อยกว่า 9 หน่วยกิต หรือ

2.3 หลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน ให้ศึกษารายวิชาต่างๆเทียบเท่าเกณฑ์หลักสูตรการศึกษาในโรงเรียน สำหรับหมวดวิชาวิทยาศาสตร์ให้แสดงหลักฐานว่าได้ศึกษาภาคปฏิบัติการเทียบเท่าหลักสูตรการศึกษาในโรงเรียน

3. ปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ช่วยพยาบาล สังกัดโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี

4. ได้รับการสนับสนุนให้ศึกษาต่อจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

5. ต้องยื่นหลักฐานผลการสอบวิชาสามัญ 09 19 29 39 49 59 69

6. คุณสมบัติด้านสุขภาพของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

6.1 เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังต่อไปนี้

6.1.1 มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
6.1.2 มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง(severe neurosis) หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
6.1.3 โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่จะมีผลต่อผู้รับบริการหรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวรอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
6.1.4 โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

6.1.4.1 โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
6.1.4.2 โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
6.1.4.3 โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
6.1.4.4 ภาวะไตวายเรื้อรัง
6.1.4.5 โรคติดสารเสพติดให้โทษทุกชนิด

6.1.5 ตาบอดสี ชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
6.1.6 ความผิดปกติในการเห็นภาพโดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
6.1.6.1 สายตาไม่ปกติเมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วยังมีสายตาต่ำกว่า6/24 ทั้งสองข้าง
6.1.6.2 สายตาข้างดี ต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
6.1.7 มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบลจากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (sensory neural hearing loss ) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
6.1.8 โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
ทั้งนี้ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ อาจแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคตรวจบางรายเพิ่มเติมได้
หมายเหตุ
1. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องตรวจสุขภาพ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ โดยต้องนำผลการตรวจร่างกายมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังต่อไปนี้
1.1 ตรวจร่างกาย
1.2 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
1.3 การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น
1.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
1.5 การตรวจภูมิต้านทานโรคสุกใส
1.6 การตรวจการได้ยิน Audiogram เฉพาะรายที่แพทย์สั่งตรวจเนื่องจากสงสัยว่าจะมีปัญหาการได้ยิน
2. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องเข้ารับการทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI) ในวันสอบสัมภาษณ์ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์
3. หากไม่นำผลการตรวจร่างกายทั้งหมดมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์จะไม่มีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์
4. ผู้เข้าศึกษาที่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูล หรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลังจะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา
5. หากรายงานผลการตรวจร่างกาย ตามที่ระบุไว้มีข้อหนึ่งข้อใดที่ระบุว่าผิดปกติ หลังจากที่ผู้สมัครได้ผ่านการสอบสัมภาษณ์แล้ว ผู้สมัครจะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา

3.เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
3.1 เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
3.2 เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
3.3 เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น

4. คุณสมบัติด้านสุขภาพของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
4.1 เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังต่อไปนี้

4.1.1 มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
4.1.2 มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง(severe neurosis) หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
4.1.3 โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่จะมีผลต่อผู้รับบริการหรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวรอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
4.1.4 โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

4.1.4.1 โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
4.1.4.2 โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
4.1.4.3 โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
4.1.4.4 ภาวะไตวายเรื้อรัง
4.1.4.5 โรคติดสารเสพติดให้โทษทุกชนิด

4.1.5 ตาบอดสี ชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
4.1.6 ความผิดปกติในการเห็นภาพโดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
4.1.6.1 สายตาไม่ปกติเมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วยังมีสายตาต่ำกว่า6/24 ทั้งสองข้าง
4.1.6.2 สายตาข้างดี ต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
4.1.7 มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบลจากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (sensory neural hearing loss ) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
4.1.8 โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกายเห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
ทั้งนี้ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ อาจแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคตรวจบางรายเพิ่มเติมได้
หมายเหตุ
1. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องตรวจสุขภาพ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ โดยต้องนำผลการตรวจร่างกายมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์ ดังต่อไปนี้
1.1 ตรวจร่างกาย
1.2 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
1.3 การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น
1.4 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
1.5 การตรวจภูมิต้านทานโรคสุกใส
1.6 การตรวจการได้ยิน Audiogram เฉพาะรายที่แพทย์สั่งตรวจเนื่องจากสงสัยว่าจะมีปัญหาการได้ยิน
2. ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์จะต้องเข้ารับการทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI) ในวันสอบสัมภาษณ์ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์
3. หากไม่นำผลการตรวจร่างกายทั้งหมดมาแสดงในวันสอบสัมภาษณ์จะไม่มีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์
4. ผู้เข้าศึกษาที่ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูล หรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลังจะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา
5. หากรายงานผลการตรวจร่างกาย ตามที่ระบุไว้มีข้อหนึ่งข้อใดที่ระบุว่าผิดปกติ หลังจากที่ผู้สมัครได้ผ่านการสอบสัมภาษณ์แล้ว ผู้สมัครจะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1.เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาที่ 6 สายสามัญ

1. คุณสมบัติของผู้สมัครทายาททางอุตสาหกรรมเกษตร
1.1 มีเอกสารรับรองการเป็นบุตรหลานสายตรงของเจ้าของโรงงานแปรรูปทางอุตสาหกรรมเกษตร ได้แก่ อาหารแปรรูป เครื่องดื่มแปรรูป บรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรอื่นๆ ที่มิใช่อาหาร ตามดุลยพินิจของกรรมการ
1.2 มีหนังสือรับรองการจดทะเบียนโรงงานของกระทรวงอุตสาหกรรม

2 คุณสมบัติของผู้สมัครการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่
2.1 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องมี Portfolio มายื่นในวันสัมภาษณ์
2.2 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับความสนใจทางด้านการเป็นผู้ประกอบการทางอุตสาหกรรมเกษตร

5.เอกสารรับรอง

6.หนังสือรับรอง

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1.เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาที่ 6 สายสามัญ

1. คุณสมบัติของผู้สมัครทายาททางอุตสาหกรรมเกษตร
1.1 มีเอกสารรับรองการเป็นบุตรหลานสายตรงของเจ้าของโรงงานแปรรูปทางอุตสาหกรรมเกษตร ได้แก่ อาหารแปรรูป เครื่องดื่มแปรรูป บรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรอื่นๆ ที่มิใช่อาหาร ตามดุลยพินิจของกรรมการ
1.2 มีหนังสือรับรองการจดทะเบียนโรงงานของกระทรวงอุตสาหกรรม

2 คุณสมบัติของผู้สมัครการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่
2.1 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องมี Portfolio มายื่นในวันสัมภาษณ์
2.2 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับความสนใจทางด้านการเป็นผู้ประกอบการทางอุตสาหกรรมเกษตร

5.เอกสารรับรอง

6.หนังสือรับรอง

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1.เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาที่ 6 สายสามัญ

1. คุณสมบัติของผู้สมัครทายาททางอุตสาหกรรมเกษตร
1.1 มีเอกสารรับรองการเป็นบุตรหลานสายตรงของเจ้าของโรงงานแปรรูปทางอุตสาหกรรมเกษตร ได้แก่ อาหารแปรรูป เครื่องดื่มแปรรูป บรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรอื่นๆ ที่มิใช่อาหาร ตามดุลยพินิจของกรรมการ
1.2 มีหนังสือรับรองการจดทะเบียนโรงงานของกระทรวงอุตสาหกรรม

2 คุณสมบัติของผู้สมัครการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่
2.1 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องมี Portfolio มายื่นในวันสัมภาษณ์
2.2 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับความสนใจทางด้านการเป็นผู้ประกอบการทางอุตสาหกรรมเกษตร

5.เอกสารรับรอง

6.หนังสือรับรอง

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1.เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาที่ 6 สายสามัญ

1. คุณสมบัติของผู้สมัครทายาททางอุตสาหกรรมเกษตร
1.1 มีเอกสารรับรองการเป็นบุตรหลานสายตรงของเจ้าของโรงงานแปรรูปทางอุตสาหกรรมเกษตร ได้แก่ อาหารแปรรูป เครื่องดื่มแปรรูป บรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรอื่นๆ ที่มิใช่อาหาร ตามดุลยพินิจของกรรมการ
1.2 มีหนังสือรับรองการจดทะเบียนโรงงานของกระทรวงอุตสาหกรรม

2 คุณสมบัติของผู้สมัครการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่
2.1 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องมี Portfolio มายื่นในวันสัมภาษณ์
2.2 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับความสนใจทางด้านการเป็นผู้ประกอบการทางอุตสาหกรรมเกษตร

5.เอกสารรับรอง

6.หนังสือรับรอง

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1.เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาที่ 6 สายสามัญ

1. คุณสมบัติของผู้สมัครทายาททางอุตสาหกรรมเกษตร
1.1 มีเอกสารรับรองการเป็นบุตรหลานสายตรงของเจ้าของโรงงานแปรรูปทางอุตสาหกรรมเกษตร ได้แก่ อาหารแปรรูป เครื่องดื่มแปรรูป บรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรอื่นๆ ที่มิใช่อาหาร ตามดุลยพินิจของกรรมการ
1.2 มีหนังสือรับรองการจดทะเบียนโรงงานของกระทรวงอุตสาหกรรม

2 คุณสมบัติของผู้สมัครการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่
2.1 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องมี Portfolio มายื่นในวันสัมภาษณ์
2.2 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับความสนใจทางด้านการเป็นผู้ประกอบการทางอุตสาหกรรมเกษตร

5.เอกสารรับรอง

6.หนังสือรับรอง

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1.เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาที่ 6 สายสามัญ

1. คุณสมบัติของผู้สมัครทายาททางอุตสาหกรรมเกษตร
1.1 มีเอกสารรับรองการเป็นบุตรหลานสายตรงของเจ้าของโรงงานแปรรูปทางอุตสาหกรรมเกษตร ได้แก่ อาหารแปรรูป เครื่องดื่มแปรรูป บรรจุภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเกษตรอื่นๆ ที่มิใช่อาหาร ตามดุลยพินิจของกรรมการ
1.2 มีหนังสือรับรองการจดทะเบียนโรงงานของกระทรวงอุตสาหกรรม

2 คุณสมบัติของผู้สมัครการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่
2.1 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องมี Portfolio มายื่นในวันสัมภาษณ์
2.2 ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์เกี่ยวกับความสนใจทางด้านการเป็นผู้ประกอบการทางอุตสาหกรรมเกษตร

5.เอกสารรับรอง

6.หนังสือรับรอง

1.เป็นผู้ที่กำลังศึกษาหรือสำเร็จการศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาที่ 6 สายสามัญ

2.เป็นผู้ที่ศึกษาอยู่ในจังหวัดชายทะเลที่มีอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางทะเล 23 จังหวัด ได้แก่ ตราด, จันทบุรี, ระยอง, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, ปัตตานี, นราธิวาส, ระนอง, พังงา, ภูเก็ต, กระบี่, ตรัง, สตูล

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

4. ผู้ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์

2. ผู้ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์

3. ผู้ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์

1. กรณีเป็นทายาทเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ : รับจำนวน 3 คน
    1.1. เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยการศึกษาเพื่อปริญญาสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
    1.2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม ศึกษาชั้นปีที่ 6 สายสามัญ ภายในปีการศึกษา 2561 ในทุกโรงเรียนทั่วประเทศ
    1.3. เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์และปราศจากโรค อาการของโรคหรือความพิการที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามเอกสารคุณสมบัติด้านสุขภาพของคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2562 ที่แนบท้าย
    1.4. เป็นทายาทสายตรง (ทายาทสายตรง หมายถึง บิดา มารดา เป็นเจ้าของฟาร์ม) ของเจ้าของฟาร์มตามขนาดที่คณะสัตวแพทยศาสตร์กำหนด และทำอาชีพเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพหลัก โดยมีหลักฐานพร้อมการรับรองจากทางราชการรับรองว่าเป็นทายาทเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์จริง
    1.5. มีเอกสารรับรองการขึ้นทะเบียนฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ได้แก่
           ก. สัตว์ปีก, สุกร, โคนม, โคเนื้อ และสัตว์น้ำ
           ข. ในกรณีที่เป็นสัตว์ชนิดอื่นปศุสัตว์เชิงธุรกิจและอุตสาหกรรม ให้มีหลักฐานรับรองการเป็นฟาร์มจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง หรือผ่านการพิจารณารับรองจากคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในโครงการรับทายาทเกษตรผู้เลี้ยงสัตว์
    1.6. เป็นผู้เข้าร่วมการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ ประจำปีการศึกษา 2562

2. กรณีเป็นทายาทผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการสัตวแพทย์ : รับจำนวน 2 คน
(คำนิยาม : ทายาทผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการสัตวแพทย์ หมายถึง เป็นทายาทสายตรงของผู้ประกอบการโรงพยาบาลสัตว์ คลินิกรักษาสัตว์ สถานบำบัดโรคสัตว์ บริษัทผลิตยาสัตว์ เวชภัณฑ์สัตว์ บริษัทผลิตอาหารสัตว์ ปางช้าง)
    2.1. เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยการศึกษาเพื่อปริญญาสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
    2.2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 สายสามัญ ภายในปีการศึกษา 2561 ในทุกโรงเรียนทั่วประเทศ
    2.3. เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์และปราศจากโรค อาการของโรคหรือความพิการที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามเอกสารคุณสมบัติด้านสุขภาพของคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2562 ที่แนบท้าย
    2.4. เป็นทายาทสายตรง (ทายาทสายตรง หมายถึง บิดา มารดา เป็นเจ้าของสถานประกอบการตามคำนิยามข้างต้น)
    2.5. มีเอกสารการจดทะเบียนพาณิชย์เพื่อประกอบกิจการ
    2.6. เป็นผู้เข้าร่วมการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ ประจำปีการศึกษา 2562

3. เกณฑ์การคัดเลือก
    3.1. สัดส่วนการให้คะแนน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
            3.1.1. ส่วนที่ 1 คะแนนการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ คิดเป็นร้อยละ 60 ทั้งนี้คะแนนจะต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของคะแนนสอบทั้งหมด
            3.1.2. ส่วนที่ 2 การสอบสัมภาษณ์ คิดเป็นร้อยละ 40
            3.1.3. ส่วนที่ 3 คะแนนสอบส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 รวมกันต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
    3.2. ผลการพิจารณาของคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในโครงการรับทายาทเกษตรผู้เลี้ยงสัตว์ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด

5. กรณีเป็นทายาทเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์
    5.1. ผู้สมัครจะต้องกรอกข้อความในใบสมัครให้ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมทั้งติดรูปถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนขนาด 3x4 เซนติเมตร ในช่องที่กำหนดให้ แล้วลงมือชื่อผู้สมัคร
    5.2. วุฒิการศึกษา ใช้ระเบียนแสดงผลการเรียนเฉลี่ย (รบ.1) ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ฉบับสำเนาจำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
    5.3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัคร จำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
    5.4. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร จำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
    5.5. ผลคะแนนการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ ประจำปีการศึกษา 2562
    5.6. สำเนาเอกสารรับรองการขึ้นทะเบียนฟาร์มเลี้ยงสัตว์ จำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
    5.7. หนังสือรับรองการเป็นฟาร์มจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จำนวน 1 ฉบับ
    5.8. รูปถ่ายฟาร์ม (บริเวณโดยรอบ และภายในฟาร์มเลี้ยงสัตว์)
    5.9. หลักฐานการชำระเงินค่าสมัคร จำนวน 200 บาท (สองร้อยบาทถ้วน)

6. กรณีเป็นทายาทผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการสัตวแพทย์
    6.1. ผู้สมัครจะต้องกรอกข้อความในใบสมัครให้ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมทั้งติดรูปถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนขนาด 3x4 เซนติเมตร ในช่องที่กำหนดให้ แล้วลงมือชื่อผู้สมัคร
    6.2. วุฒิการศึกษา ใช้ระเบียนแสดงผลการเรียนเฉลี่ย (รบ.1) ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ฉบับสำเนาจำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
    6.3. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัคร จำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
    6.4. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร จำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
    6.5. ผลคะแนนการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ ประจำปีการศึกษา 2562
    6.6. สำเนาเอกสารการจดทะเบียนการประกอบการที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการสัตวแพทย์ จำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
    6.7. หนังสือรับรองการเป็นทายาทผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการสัตวแพทย์ จำนวน 1 ฉบับ
    6.8. รูปถ่ายสถานประกอบการ (บริเวณโดยรอบ และภายในสถานประกอบการ)
    6.9. หลักฐานการชำระเงินค่าสมัคร จำนวน 200 บาท (สองร้อยบาทถ้วน)

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• ใบสมัครโครงการขยายโอกาสทางการศึกษาด้านวิชาชีพสัตวแพทย์ ปีการศึกษา 2562

3. ผู้ผ่านการคัดเลือกจะต้องเข้ารับการสอบสัมภาษณ์

1. เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยการศึกษาเพื่อปริญญาสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 สายสามัญ ภายในปีการศึกษา 2561 ในทุกโรงเรียนทั่วประเทศ
3. ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยและต้องเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
4. เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์และปราศจากโรค อาการของโรคหรือความพิการที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามเอกสารคุณสมบัติด้านสุขภาพของคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2562 ที่แนบท้าย
5. เป็นผู้เข้าร่วมการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ ประจำปีการศึกษา 2562
6. เกณฑ์การคัดเลือก
    6.1. สัดส่วนการให้คะแนน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
           6.1.1. ส่วนที่ 1 คะแนนการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ (ไม่ต่ำกว่า 45%)
           6.1.2. ส่วนที่ 2 เป็นผู้ที่มีความโดดเด่นทางภาษาอังกฤษ โดยแสดงหลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอบภายใน 2 ปี ดังนี้
                     ก. คะแนนภาษาอังกฤษจากการสอบ GAT ไม่น้อยกว่า 85% หรือ
                     ข. คะแนนสอบ CMU-eTEG มากกว่าหรือเท่ากับ 75 หรือ
                     ค. คะแนนสอบ TOEFL paper มากกว่าหรือเท่ากับ 550 หรือ
                     ง. คะแนนสอบ TOEFL iBT มากกว่าหรือเท่ากับ 79 หรือ
                     จ. คะแนนสอบ IELTS มากกว่าหรือเท่ากับ 6.5 หรือ
                     ฉ. คะแนนสอบ CU-TEP มากกว่าหรือเท่ากับ 75
           6.1.3. ส่วนที่ 3
                     - การสอบสัมภาษณ์
    6.2. ผลการพิจารณาของคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในโครงการดีเด่นด้านภาษาอังกฤษถือว่าเป็นที่สิ้นสุด

5. ผู้สมัครจะต้องกรอกข้อความในใบสมัครให้ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมทั้งติดรูปถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือนขนาด 3x4 เซนติเมตร ในช่องที่กำหนดให้ แล้วลงมือชื่อผู้สมัคร
6. วุฒิการศึกษา ใช้ระเบียนแสดงผลการเรียนเฉลี่ย (รบ.1) ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย ฉบับสำเนาจำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
7. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้สมัคร จำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
8. สำเนาทะเบียนบ้านของผู้สมัคร จำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
9. ผลคะแนนการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ ประจำปีการศึกษา 2562 
10. สำเนาเอกสารหลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษที่สอบภายใน 2 ปี จำนวน 1 ฉบับ และสำหรับต้นฉบับจริงให้นำมาในวันสอบสัมภาษณ์
11. หลักฐานการชำระเงินค่าสมัคร จำนวน 200 บาท (สองร้อยบาทถ้วน)

เอกสารแนบเพิ่มเติม....

• ใบสมัครโครงการดีเด่นด้านภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2562

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 3.00

2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5, ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนของโรงเรียน 20 จังหวัดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
2.1 เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
2.2 เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น

2.3 เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น

2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5, ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนของโรงเรียน 20 จังหวัดในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
3.1 เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
3.2 เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น

3.3 เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น

2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5, ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนของโรงเรียน 14 จังหวัดในเขตภาคใต้ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
2.1 เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคใต้ ตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
2.2 เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคใต้ ตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
2.3 เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคใต้ ตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น

2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5, ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนของโรงเรียน 14 จังหวัดในเขตภาคใต้ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
3.1 เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคใต้ ตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
3.2 เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคใต้ ตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
3.3 เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตภาคใต้ ตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น

2. เป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหวที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน สามารถ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป

2. เป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหวที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ในชีวิตประจำวัน สามารถ ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้เช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3.เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนนอกเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้ 

- เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษานอกเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
- เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษานอกเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
- เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษานอกเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น

2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

3.เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชนนอกเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้

- เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษานอกเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
- เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษานอกเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
- เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษานอกเขต 17 จังหวัดภาคเหนือ ตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ในแต่ละกลุ่มสาขาวิชา ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ในแต่ละกลุ่มสาขาวิชา ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

1. มีสัญชาติไทย และเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทย อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือกำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า
3. เป็นผู้ที่ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง หรือเป็นโรคที่สังคมรังเกียจ หรือโรคที่สำคัญ ที่จะเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการเล่นกีฬา
4. ไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือถูกให้ออกจากสถาบันการศึกษาใด ๆ เพราะความผิดทางความประพฤติ

2. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ในแต่ละกลุ่มสาขาวิชา ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
3. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ในแต่ละกลุ่มสาขาวิชา ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

2.ผู้สมัครเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทุกโรงเรียนทั่วประเทศไทย
3. GPA จาก 4 กลุ่มสาระไม่น้อยกว่า 3.00 ดังนี้
- ภาษาไทย (GPA ไม่น้อยกว่า 3.00)
- คณิตศาสตร์ (GPA ไม่น้อยกว่า 3.00)
- สังคม ฯ (GPA ไม่น้อยกว่า 3.00)
- ภาษาต่างประเทศ (GPA ไม่น้อยกว่า 3.00)

2.ผู้สมัครเป็นนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทุกโรงเรียนทั่วประเทศไทย
3. GPA จาก 4 กลุ่มสาระไม่น้อยกว่า 3.00 ดังนี้
- ภาษาไทย (GPA ไม่น้อยกว่า 3.00)
- คณิตศาสตร์ (GPA ไม่น้อยกว่า 3.00)
- สังคม ฯ (GPA ไม่น้อยกว่า 3.00)
- ภาษาต่างประเทศ (GPA ไม่น้อยกว่า 3.00)

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

3. เป็นผู้บกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ หรือบกพร่องสายตาเลือนลาง

4. ส่งแฟ้มสะสมงาน (Portfolio) มาพร้อมกับใบสมัคร

1. เป็นผู้ที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50 หรือ
2. เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) ไม่น้อยกว่า 2.50

3. เป็นผู้บกพร่องทางร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ หรือบกพร่องสายตาเลือนลาง
4. ส่งแฟ้มสะสมงาน (Portfolio) มาพร้อมกับใบสมัคร

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

1. เป็นนักเรียนชั้น ม.4, ม.5 ,ม.6 ติดต่อกัน 3 ปี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ของโรงเรียน 17 จังหวัดในเขตพัฒนาภาคเหนือ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้
   1. เป็นนักเรียนชั้น ม.6 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2561 เท่านั้น
   2. เป็นนักเรียนชั้น ม.5 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2560 เท่านั้น
   3. เป็นนักเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพัฒนาภาคเหนือตลอดปีการศึกษา 2559 เท่านั้น
2. เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา