• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• TGAT/TPAT
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 40

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) ค่าน้ำหนักร้อยละ 40

• A-Level
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) (61) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • ฟิสิกส์ (64) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• TGAT/TPAT
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 35

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) ค่าน้ำหนักร้อยละ 40

• A-Level
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) (61) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • ฟิสิกส์ (64) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• TGAT/TPAT
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 35

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) ค่าน้ำหนักร้อยละ 40

• A-Level
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) (61) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • ฟิสิกส์ (64) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• TGAT/TPAT
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 35

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) ค่าน้ำหนักร้อยละ 40

• A-Level
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) (61) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • ฟิสิกส์ (64) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• TGAT/TPAT
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 35

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) ค่าน้ำหนักร้อยละ 40

• A-Level
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) (61) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • ฟิสิกส์ (64) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20

• กสพท.
  • เป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ดูรายละเอียดได้ที่ website ของ กสพท. http://www9.si.mahidol.ac.th/ (รหัสสาขาวิชาเพื่อใช้ในการสมัครให้เป็นไปตาม กสพท. กำหนด)  

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม)   ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 13 หน่วยกิต
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 30

• A-Level
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) (61) ค่าน้ำหนักร้อยละ 40
  • สังคมศึกษา (70) ค่าน้ำหนักร้อยละ 10

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม)   ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 13 หน่วยกิต
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 10
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) ค่าน้ำหนักร้อยละ 40

• A-Level
  • ชีววิทยา (66) ค่าน้ำหนักร้อยละ 30

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม)   ค่าน้ำหนักร้อยละ 20
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 13 หน่วยกิต
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 10
  • TPAT 3 ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ (30) ค่าน้ำหนักร้อยละ 40

• A-Level
  • ชีววิทยา (66) ค่าน้ำหนักร้อยละ 30

• กสพท.
  • เป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ดูรายละเอียดได้ที่ website ของ กสพท. http://www9.si.mahidol.ac.th/ (รหัสสาขาวิชาเพื่อใช้ในการสมัครให้เป็นไปตาม กสพท. กำหนด)  

• กสพท.
  • เป็นผู้มีคุณสมบัติตามประกาศของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) ดูรายละเอียดได้ที่ website ของ กสพท. http://www9.si.mahidol.ac.th/ (รหัสสาขาวิชาเพื่อใช้ในการสมัครให้เป็นไปตาม กสพท. กำหนด)  

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.50
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรคหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

 คุณสมบัติเฉพาะ
1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ ดังต่อไปนี้
    2.1 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
    2.2 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
    2.3 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
    2.4 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
         จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ

เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
   - จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง โดยให้นักเรียนคัดกรองตนเองเบื้องต้น ได้ที่
      https://onlinecolorblindtest.com
   - หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES ให้ไปพบจักษุแพทย์และตรวจ FARNSWORTH D15 hue test
      เพิ่มเติมโดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
      สาขาวิชาสามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้

3. การตรวจสุขภาพสำหรับนักศึกษาใหม่ เมื่อเข้ามาศึกษาในคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ ศูนย์สุขภาพพร้อม คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่
    3.1 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
    3.2 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
    3.3 การทดสอบทางจิตวิทยา
    3.4 การตรวจตาบอดสี โดยจะต้องผ่านการตรวจตาบอดสีตามการวินิจฉัยของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยโดยหากตรวจพบ
         ภาวะตาบอดสีรุนแรงภายหลังนักศึกษาจะโดนตัดสิทธิ์การศึกษา

• A-Level
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) (61) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 47
  • เคมี (65) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 50
  • ชีววิทยา (66) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 50
  • ภาษาอังกฤษ (82) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 40

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20

• A-Level
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) (61) ค่าน้ำหนักร้อยละ 10
  • เคมี (65) ค่าน้ำหนักร้อยละ 30
  • ชีววิทยา (66) ค่าน้ำหนักร้อยละ 30
  • ภาษาอังกฤษ (82) ค่าน้ำหนักร้อยละ 10

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

คุณสมบัติเฉพาะ

1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ ดังต่อไปนี้
    2.1 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
    2.2 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
    2.3 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
    2.4 ตาบอดทั้งสองข้างหรือมีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
         จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ

เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
   - จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง โดยให้นักเรียนคัดกรองตนเองเบื้องต้น ได้ที่
      https://onlinecolorblindtest.com
   - หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES ให้ไปพบจักษุแพทย์และตรวจ FARNSWORTH D15 hue test
     เพิ่มเติมโดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย
     สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้

3. การตรวจสุขภาพสำหรับนักศึกษาใหม่ เมื่อเข้ามาศึกษาในคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ ศูนย์สุขภาพพร้อม คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่
    3.1 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
    3.2 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
    3.3 การทดสอบทางจิตวิทยา
    3.4 การตรวจตาบอดสี โดยจะต้องผ่านการตรวจตาบอดสีตามการวินิจฉัยของราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยโดยหากตรวจพบ
         ภาวะตาบอดสีรุนแรงภายหลัง นักศึกษาจะโดนตัดสิทธิ์การศึกษา

• A-Level
  • ภาษาอังกฤษ (82) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 45

• TGAT/TPAT
  • TGAT 1 การสื่อสารภาษาอังกฤษ (91) ค่าน้ำหนักร้อยละ 10
  • TGAT 2 การคิดอย่างมีเหตุผล (92) ค่าน้ำหนักร้อยละ 10

• A-Level ชุดที่ 1 (สายวิทย์ฯ)
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (61), ฟิสิกส์ (64), เคมี (65), ชีววิทยา (66), สังคมศึกษา (70), ภาษาไทย (81), ภาษาอังกฤษ (82) (ผลรวมค่าน้ำหนัก) ค่าน้ำหนักร้อยละ 80

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา

คุณสมบัติเฉพาะ

1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ ดังต่อไปนี้
    2.1 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
    2.2 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
    2.3 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
    2.4 ตาบอดข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง

3. การตรวจสุขภาพสำหรับนักศึกษาใหม่ เมื่อเข้ามาศึกษาในคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ ศูนย์สุขภาพพร้อม คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่
    3.1 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
    3.2 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
    3.3 การทดสอบทางจิตวิทยา

• A-Level
  • ฟิสิกส์ (64) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 38
  • ภาษาอังกฤษ (82) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 40

• A-Level ชุดที่ 1 (สายวิทย์ฯ)
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (61), ฟิสิกส์ (64), เคมี (65), ชีววิทยา (66), สังคมศึกษา (70), ภาษาไทย (81), ภาษาอังกฤษ (82) (ผลรวมค่าน้ำหนัก) ค่าน้ำหนักร้อยละ 100

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม)   ค่าน้ำหนักร้อยละ 10
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• เป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงและไม่เป็นโรค หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคในการศึกษา 

คุณสมบัติเฉพาะ

1. เป็นผู้มีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์
2. มีสภาวะของร่างกายปกติ ไม่เป็นผู้ที่มีความพิการ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและงานในวิชาชีพ ดังต่อไปนี้
    2.1 มีความพิการของนิ้วมือ แขน ขา จนเป็นอุปสรรคต่องานในวิชาชีพ
    2.2 เป็นใบ้หรือหูหนวกทั้งสองข้าง
    2.3 มีปัญหาในการพูด ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น พูดติดอ่าง พูดลิ้นคับปาก
    2.4 ตาบอดข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง

3. การตรวจสุขภาพสำหรับนักศึกษาใหม่ เมื่อเข้ามาศึกษาในคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ณ ศูนย์สุขภาพพร้อม คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่
    3.1 การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
    3.2 การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี (HBsAg & Anti-HBs)
    3.3 การทดสอบทางจิตวิทยา

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 40

• A-Level
  • ฟิสิกส์ (64) ค่าน้ำหนักร้อยละ 25
  • ชีววิทยา (66) ค่าน้ำหนักร้อยละ 25

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  
• ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย

• คุณสมบัติด้านสุขภาพ ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
• เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังต่อไปนี้
1. มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
2. มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง(severe neurosis) หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
3. โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่จะมีผลต่อผู้รับบริการหรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
4. โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
• โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
• โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
• โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
• ภาวะไตวายเรื้อรัง
• โรคติดสารเสพติดให้โทษทุกชนิด
5. ตาบอดสี ชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
6. ความผิดปกติในการเห็นภาพ โดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
• สายตาไม่ปกติเมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วยังมีสายตาต่ำกว่า 6/24 ทั้งสองข้าง
• สายตาข้างดี ต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
7. มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบลจากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (sensory neural hearing loss) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
8. โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกาย เห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

• ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าศึกษา จะต้องตรวจสุขภาพกับคณะพยาบาลศาสตร์ ดังต่อไปนี้
1. ตรวจร่างกาย
2. การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
3. การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น
4. การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
5. การตรวจภูมิต้านทานโรคสุกใส
6. การตรวจการได้ยิน Audiogram เฉพาะรายที่แพทย์สั่งตรวจเนื่องจากสงสัยว่าจะมีปัญหาการได้ยิน
7. การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

และหากผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าศึกษา ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูลหรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลัง หรือรายงานผลการตรวจร่างกาย ตามที่ระบุไว้มีข้อหนึ่งข้อใดที่ระบุว่าผิดปกติหลังจากที่ยืนยันสิทธิ์แล้ว จะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา

• เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
• จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง โดยให้นักเรียนคัดกรองตนเองเบื้องต้น ได้ที่ https://onlinecolorblindtest.com
• หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES ให้ไปพบจักษุแพทย์และตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติมโดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 30

• A-Level
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) (61) ค่าน้ำหนักร้อยละ 10
  • เคมี (65) ค่าน้ำหนักร้อยละ 15
  • ชีววิทยา (66) ค่าน้ำหนักร้อยละ 25
  • ภาษาอังกฤษ (82) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  
• ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย

• คุณสมบัติด้านสุขภาพ ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
• เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังต่อไปนี้
1. มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
2. มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง(severe neurosis) หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
3. โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่จะมีผลต่อผู้รับบริการหรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
4. โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
• โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
• โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
• โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
• ภาวะไตวายเรื้อรัง
• โรคติดสารเสพติดให้โทษทุกชนิด
5. ตาบอดสี ชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
6. ความผิดปกติในการเห็นภาพ โดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
• สายตาไม่ปกติเมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วยังมีสายตาต่ำกว่า 6/24 ทั้งสองข้าง
• สายตาข้างดี ต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
7. มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบลจากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (sensory neural hearing loss) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
8. โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกาย เห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

• ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าศึกษา จะต้องตรวจสุขภาพกับคณะพยาบาลศาสตร์ ดังต่อไปนี้
1. ตรวจร่างกาย
2. การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
3. การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น
4. การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
5. การตรวจภูมิต้านทานโรคสุกใส
6. การตรวจการได้ยิน Audiogram เฉพาะรายที่แพทย์สั่งตรวจเนื่องจากสงสัยว่าจะมีปัญหาการได้ยิน
7. การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

และหากผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าศึกษา ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูลหรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลัง หรือรายงานผลการตรวจร่างกาย ตามที่ระบุไว้มีข้อหนึ่งข้อใดที่ระบุว่าผิดปกติหลังจากที่ยืนยันสิทธิ์แล้ว จะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา

• เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
• จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง โดยให้นักเรียนคัดกรองตนเองเบื้องต้น ได้ที่ https://onlinecolorblindtest.com
• หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES ให้ไปพบจักษุแพทย์และตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติมโดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้

• A-Level
  • ภาษาอังกฤษ (82) T-SCORE ไม่น้อยกว่า 52

• TGAT/TPAT
  • TGAT ความถนัดทั่วไป (90) ค่าน้ำหนักร้อยละ 30

• A-Level
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (พื้นฐาน+เพิ่มเติม) (61) ค่าน้ำหนักร้อยละ 10
  • เคมี (65) ค่าน้ำหนักร้อยละ 15
  • ชีววิทยา (66) ค่าน้ำหนักร้อยละ 25
  • ภาษาอังกฤษ (82) ค่าน้ำหนักร้อยละ 20

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• A-Level ชุดที่ 1 (สายวิทย์ฯ)
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (61), ฟิสิกส์ (64), เคมี (65), ชีววิทยา (66), สังคมศึกษา (70), ภาษาไทย (81), ภาษาอังกฤษ (82) (ผลรวมค่าน้ำหนัก) ค่าน้ำหนักร้อยละ 100

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• A-Level ชุดที่ 1 (สายวิทย์ฯ)
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (61), ฟิสิกส์ (64), เคมี (65), ชีววิทยา (66), สังคมศึกษา (70), ภาษาไทย (81), ภาษาอังกฤษ (82) (ผลรวมค่าน้ำหนัก) ค่าน้ำหนักร้อยละ 100

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) คณิตศาสตร์ ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีหน่วยกิตกลุ่มสาระการเรียนรู้มัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม) วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต

• A-Level ชุดที่ 1 (สายวิทย์ฯ)
  • คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 (61), ฟิสิกส์ (64), เคมี (65), ชีววิทยา (66), สังคมศึกษา (70), ภาษาไทย (81), ภาษาอังกฤษ (82) (ผลรวมค่าน้ำหนัก) ค่าน้ำหนักร้อยละ 100