ไทย : สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
อังกฤษ : Doctor of Veterinary Medicine
หลักสูตรปรับปรุงตาม พ.ศ : 2558 ระยะเวลาในการศึกษา : 6 ปี
ไทย : หลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
อังกฤษ : Doctor of Veterinary Medicine Program
แบบเต็ม(ไทย) : สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
แบบย่อ(ไทย) : สพ.บ.
แบบเต็ม(อังกฤษ) : Doctor of Veterinary Medicine
แบบย่อ(อังกฤษ) : D.V.M.
หลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต เป็นหลักสูตรระดับปริญญาตรี ซึ่งได้รับการรับรองจากสัตวแพทยสภา ผู้จบการศึกษาสามารถสอบรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ตามกฎหมาย ใช้เวลาในการเรียน 6 ปีการศึกษา
- ชั้นปีที่ 1 - 3 ศึกษาในหมวดวิชาศึกษาทั่วไป และวิชาพื้นฐานทางคลินิก โดยจัดการเรียนการสอนในระบบทวิภาค ซึ่งเน้นกระบวนวิชาที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง (Student Center) และเน้นกระบวนวิชาแก้ไขปัญหาบูรณาการ
- ชั้นปีที่ 4 - 6 ศึกษาในหมวดวิชาทางคลินิก โดยจัดการเรียนการสอนในระบบการศึกษาตลอดปีการศึกษา ในการเรียนชั้นปีที่ 6 จะเป็นการเรียนการสอนภาคปฏิบัติ โดยนักศึกษาจะได้ฝึกปฏิบัติงาน และเสริมสร้างทักษะทางสัตวแพทยศาสตร์ ทางด้านคลินิกสัตว์เล็ก คลินิกช้างและสัตว์ป่า คลินิกม้า คลินิกสัตว์เคี้ยวเอื้อง คลินิกสัตว์น้ำ คลินิกสัตว์ปีก คลินิกสุกร สัตวแพทย์สาธารณสุข และพาราคลินิกทางสัตวแพทย์
1.เป็นผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ (ม.6)
2.ผู้ที่สอบผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ จะต้องตรวจสุขภาพ ณ ศูนย์สร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เท่านั้น และต้องนำผลการตรวจร่างกายมายื่นในวันสอบสัมภาษณ์
คุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัคร
การรับนักศึกษาตามระบบโควตาภาคเหนือ ปีการศึกษา 2561
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
*****************************************
ผู้ผ่านการคัดเลือกให้เข้าศึกษาหากไม่ยื่นหนังสือยืนยันสิทธิ์เข้าศึกษาและหนังสือยินยอมการส่งรายชื่อเพื่อตัดสิทธิ์การสอบคัดเลือกเข้าศึกษาหลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต ที่จัดโดย กสพท. การสอบคัดเลือกเพื่อศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาระบบรับตรงของ ทปอ. (Clearing house) โครงการพิเศษอื่นๆ และการตัดสิทธิ์ในการสอบเพื่อศึกษาในระดับอุดมศึกษาระบบแอดมิชชั่นกลาง คณะกรรมการสอบสัมภาษณ์มีสิทธิ์พิจารณาไม่รับเข้าศึกษาได้
คุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัคร และเกณฑ์การคัดเลือก
โครงการรับทายาทเกษตรผู้เลี้ยงสัตว์ ปีการศึกษา 2561
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
*******************************************
1. คุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัครสอบคัดเลือก
1.1.เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยการศึกษาเพื่อปริญญาสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
1.2.เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 สายสามัญ ภายในปีการศึกษา 2560 ในทุกโรงเรียนทั่วประเทศ
1.3.เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์และปราศจากโรค อาการของโรคหรือความพิการที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามเอกสารคุณสมบัติด้านสุขภาพของคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2561 ที่แนบท้าย
1.4.เป็นทายาทสายตรง (ทายาทสายตรงได้แก่ บิดา มารดา เป็นเจ้าของฟาร์ม) ของเจ้าของฟาร์มตามขนาดที่คณะสัตวแพทยศาสตร์กำหนด และทำอาชีพเลี้ยงสัตว์เป็นอาชีพหลัก โดยมีหลักฐานพร้อมการรับรองจากทางราชการรับรองว่าเป็นทายาทเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์จริง
1.5.มีเอกสารรับรองการขึ้นทะเบียนฟาร์มเลี้ยงสัตว์ ได้แก่
1.5.1.สัตว์ปีก, สุกร, โคนม, โคเนื้อ และสัตว์น้ำ
1.5.2.ในกรณีที่เป็นสัตว์ชนิดอื่นปศุสัตว์เชิงธุรกิจและอุตสาหกรรม ให้มีหลักฐานรับรองการเป็นฟาร์มจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง หรือผ่านการพิจารณารับรองจากคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในโครงการรับทายาทเกษตรผู้เลี้ยงสัตว์
1.6.เป็นผู้เข้าร่วมการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ ประจำปีการศึกษา 2561
2.เกณฑ์การคัดเลือก
2.1.สัดส่วนการให้คะแนน แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
2.1.1.ส่วนที่ 1
- คะแนนการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ (ไม่ต่ำกว่า 45%) คิดเป็นร้อยละ 60
2.1.2. ส่วนที่ 2
- การสอบสัมภาษณ์ คิดเป็นร้อยละ 40
2.2.ผลการพิจารณาของคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในโครงการรับทายาทเกษตรผู้เลี้ยงสัตว์ถือว่าเป็นที่สิ้นสุด
คุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัคร และเกณฑ์การคัดเลือก
โครงการดีเด่นด้านภาษาอังกฤษ ปีการศึกษา 2561
คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
*******************************************
1.คุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัครสอบคัดเลือก
1.1.เป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ว่าด้วยการศึกษาเพื่อปริญญาสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
1.2.เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษา หรือคาดว่าจะสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 6 สายสามัญ ภายในปีการศึกษา 2560 ในทุกโรงเรียนทั่วประเทศ
1.3.ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทยและต้องเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
1.4.เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์และปราศจากโรค อาการของโรคหรือความพิการที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามเอกสารคุณสมบัติด้านสุขภาพของคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปีการศึกษา 2561 ที่แนบท้าย
1.5.เป็นผู้เข้าร่วมการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ ประจำปีการศึกษา 2561
2.เกณฑ์การคัดเลือก
2.1.สัดส่วนการให้คะแนน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
2.1.1. ส่วนที่ 1 คะแนนการสอบวิชาสามัญสายวิทย์ (ไม่ต่ำกว่า 45%)
2.1.2 ส่วนที่ 2 เป็นผู้ที่มีความโดดเด่นทางภาษาอังกฤษ โดยแสดงหลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอบภายใน 2 ปี ดังนี้
ก.คะแนนภาษาอังกฤษจากการสอบ GAT ไม่น้อยกว่า 85% หรือ
ข.คะแนนสอบ CMU-eTEG มากกว่าหรือเท่ากับ 75 หรือ
ค.คะแนนสอบ TOEFL paper มากกว่าหรือเท่ากับ 550 หรือ
ง.คะแนนสอบ TOEFL iBT มากกว่าหรือเท่ากับ 79 หรือ
จ.คะแนนสอบ IELTS มากกว่าหรือเท่ากับ 6.5 หรือ
ฉ.คะแนนสอบ CU-TEP มากกว่าหรือเท่ากับ 75
2.1.3. ส่วนที่ 3
- การสอบสัมภาษณ์
2.2.ผลการพิจารณาของคณะกรรมการดำเนินการคัดเลือกนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในโครงการดีเด่นด้านภาษาอังกฤษถือว่าเป็นที่สิ้นสุด
เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือความพิการที่เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงานและการประกอบวิชาชีพ ดังนี้
1.มีปัญหาทางจิตเวชรุนแรงอันอาจเป็นอันตรายต่อตนเอง และ/หรือ ผู้อื่น เช่น โรคจิต/(Psychotic Disorders) กลุ่มอาการออทิสซึม (Autistic Spectrum) โรคอารมณ์ผิดปกติ (Mood Disorders) โรคประสาทรุนแรง (Severe Neurosis Disorders) โรคบุคลิกภาพผิดปกติ (PersonalityDisorders) โดยเฉพาะ Antisocial Personality Disorders หรือ Borderline Personality Disorders รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพ
2.เป็นโรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเอง ต่อผู้ป่วย หรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพ
3.เป็นโรคไม่ติดต่อ หรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ที่อาจเกิดอันตรายต่อตนเอง ต่อผู้ป่วย และการประกอบวิชาชีพ ดังนี้
3.1.ลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยมีการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
3.2.โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพ โรคความดันโลหิตรุนแรงและมีภาวะแทรกซ้อนจนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
3.3. ภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
3.4. โรคติดสารเสพติดให้โทษ
3.5.โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ข้างต้น แต่คณะกรรมการแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย เห็นว่า เป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพ
4.มีความผิดปกติในการเห็นภาพ ตามประกาศภาคีคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย เรื่อง คุณสมบัติเฉพาะของผู้สมัครเข้าเรียนหลักสูตรสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต ฉบับ พ.ศ.2559 โดยมีความผิดปกติในการมองเห็นภาพ และคณะกรรมการแพทย์ผู้ตรวจร่างกายของสถาบันนั้นๆ เห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา การปฏิบัติงาน และการประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ โดยมีระดับการมองเห็นในตาข้างดี เมื่อแก้ไขด้วยแว่นตาแล้ว แย่กว่า 6/12 หรือ 20/40
5.มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบล จากความผิดปกติของประสาทและเซลล์ประสาทการได้ยิน (sensory neural hearing loss)
หมายเหตุ
1.ในกรณีที่ผู้เข้าศึกษาให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ จงใจปกปิดข้อมูล หรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลัง จะต้องถูกตัดสิทธิ์ในการศึกษา
2.การพิจารณาตัดสิทธิ์ผู้เข้าศึกษาด้วยเหตุผลคุณสมบัติด้านสุขภาพ ต้องดำเนินการโดยคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยกรรมการจำนวนไม่น้อยกว่า 5 คนและผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหารประจำคณะสัตวแพทยศาสตร์ ผลการพิจารณาถือเป็นที่สิ้นสุด
3.ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ต้องได้รับการตรวจร่างกาย โดยหน่วยสร้างเสริมสุขภาพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดังต่อไปนี้
3.1.การตรวจร่างกาย
3.2.การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
3.3.การตรวจตาบอดสี
3.4.การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
3.5.การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)
4.สำหรับการรับนักศึกษาตามระบบโควตาภาคเหนือ ให้เข้ารับการตรวจสุขภาพจิตเพิ่มเติมหากกรณีที่คณะกรรมการสอบสัมภาษณ์มีข้อเสนอแนะให้ไปตรวจเพิ่มเติมและให้นำผลการตรวจมาแสดงต่อคณะกรรมการฯ หากไม่ส่งผลการตรวจสุขภาพจิตเพิ่มเติมคณะกรรมการฯ มีสิทธิ์พิจารณาไม่รับเข้าศึกษาได้
ผู้จบการศึกษาเป็นสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต ประกอบอาชีพได้ในหลากหลายรูปแบบ และสามารถเลือกประกอบอาชีพทางสัตวแพทย์ได้กับสัตว์ชนิดต่างๆ ที่บัณฑิตมีความถนัดและชำนาญ สำหรับแนวทางการประกอบอาชีพ มีดังนี้
1.ธุรกิจส่วนตัว ผู้ที่จบการศึกษาสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต และขึ้นทะเบียนใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์จากสัตวแพทยสภา สามารถเปิดคลินิกหรือโรงพยาบาลเพื่อให้บริการรักษาและดูแลสุขภาพสัตว์ได้หรือ ทำธุรกิจด้านอื่นๆ ที่ใช้ความสามารถด้านการสัตวแพทย์ เช่น ธุรกิจยาสัตว์ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการรักษาสัตว์ จัดตั้งฟาร์มเลี้ยงสัตว์ส่วนตัว ฯลฯ
2.รับราชการ สามารถประกอบวิชาชีพในหน่วยงานราชการต่างๆ ที่ต้องการสัตวแพทย์ เช่น
- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อาทิ กรมปศุสัตว์ ทำงานด้านการควบคุมและป้องกันโรคระบาดสัตว์ในประเทศและระหว่างประเทศ ดูแล ควบคุมกำกับการใช้สารต่างๆ ในอาหารสัตว์ เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการรณรงค์ความปลอดภัยของอาหารทั่วประเทศ
- กระทรวงมหาดไทย เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองกำกับการสุนัขตำรวจ กองกำกับการตำรวจม้า ฯลฯ เพื่อดูแลรักษาสุขภาพสัตว์ รวมทั้งเป็นนายสัตวแพทย์ประจำหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น เทศบาล เป็นต้น
- กระทรวงกลาโหม เช่น สำนักงานทหารพัฒนาการ กองบัญชาการทหารสูงสุด กรมการสัตว์ทหารบก ศูนย์การสุนัขทหาร กองพันสัตว์ต่าง ฯลฯ เพื่อวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการจัดหาเวชกรรมป้องกัน รักษาพยาบาลและผลิตสัตว์ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานในกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม
- กระทรวงศึกษาธิการ สามารถเป็นอาจารย์สัตวแพทย์ หรือ นักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานด้านการเรียนการสอน การวิจัย และดูแลรักษาสุขภาพสัตว์ ในสถาบันอุดมศึกษาหรือสถาบันการศึกษาอื่นที่จัดการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ
- กระทรวงสาธารณสุข เช่น กรมควบคุมโรคติดต่อกรมอนามัย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นต้น
3.องค์กรธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เช่น ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจยาสัตว์และวัคซีน ธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากเนื้อและนม ธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านวิชาการแก่ผู้รับบริการ และมีโอกาสร่วมในงานวิจัยของฝ่ายวิชาการของบริษัทต่างๆ
4.หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เช่น องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย องค์การสวนสัตว์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ องค์การเภสัชกรรม สภากาชาดไทย
เบอร์โทรศัพท์ : 053-948009
เบอร์ Fax : 053-948065