• คุณสมบัติเฉพาะด้านสุขภาพ ของผู้สมัครเข้าศึกษาในคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 3.50
  • เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (6 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 3.50
• ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น
• ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย

• สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษามาแล้วไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการสมัคร

• มีผลการสอบวัดความรู้ความสามารถ ในการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยสามารถใช้คะแนนผลการสอบย้อนหลังได้ไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร ดังนี้
1. IELTS ไม่น้อยกว่า 5.0 
2. TOEFL iBT ไม่น้อยกว่า 61 คะแนน
3. TOEFL ITP ไม่น้อยกว่า 500 คะแนน
4. CMU-eTEGs ไม่น้อยกว่า 65 คะแนน
5. CU-TEP ไม่น้อยกว่า 69 คะแนน
6. TU-GET ไม่น้อยกว่า 650 คะแนน

• สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสอบสัมภาษณ์ได้

• คุณสมบัติด้านสุขภาพ ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
• เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังต่อไปนี้
1. มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
2. มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง(severe neurosis) หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน  โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
3. โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่จะมีผลต่อผู้รับบริการหรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
4. โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
• โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
• โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
• โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
• ภาวะไตวายเรื้อรัง
• โรคติดสารเสพติดให้โทษทุกชนิด
5. ตาบอดสี ชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
6. ความผิดปกติในการเห็นภาพ โดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
• สายตาไม่ปกติเมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วยังมีสายตาต่ำกว่า 6/24 ทั้งสองข้าง
• สายตาข้างดี ต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
7. มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบลจากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (sensory neural hearing loss) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
8. โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกาย เห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

• ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าศึกษา จะต้องตรวจสุขภาพกับคณะพยาบาลศาสตร์ ดังต่อไปนี้
1. ตรวจร่างกาย
2. การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
3. การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น
4. การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
5. การตรวจภูมิต้านทานโรคสุกใส
6. การตรวจการได้ยิน Audiogram เฉพาะรายที่แพทย์สั่งตรวจเนื่องจากสงสัยว่าจะมีปัญหาการได้ยิน
7. การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

และหากผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าศึกษา ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูลหรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลัง หรือรายงานผลการตรวจร่างกาย ตามที่ระบุไว้มีข้อหนึ่งข้อใดที่ระบุว่าผิดปกติหลังจากที่ยืนยันสิทธิ์แล้ว จะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา

• เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
• จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง โดยให้นักเรียนคัดกรองตนเองเบื้องต้น ได้ที่ https://onlinecolorblindtest.com
• หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES ให้ไปพบจักษุแพทย์และตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติมโดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบรับรองแพทย์

  ที่ระบุการตรวจร่างกายและรายละเอียดการตรวจตาบอดสีจากโรงพยาบาลของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชนเท่านั้น ซึ่งตรวจไว้ไม่เกิน 3 เดือนนับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร (ดาวน์โหลดแบบฟอร์มตามไฟล์ดังแนบ)

   ลิงค์เอกสารประกอบ
• หนังสือรับรอง (ไม่มีแบบฟอร์ม)

  หนังสือรับรองการเป็นนักเรียน พร้อมตราประทับตราโรงเรียน (เฉพาะผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6)

• ใบแสดงผลการเรียน
• หลักฐานผลคะแนนที่ใช้คัดเลือก

  ใบแสดงผลการสอบวัดความรู้ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยสามารถใช้คะแนนผลการสอบย้อนหลังได้ไม่เกิน 2 ปี นับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร ดังนี้

  1. IELTS ไม่น้อยกว่า 5.0 
  2. TOEFL iBT ไม่น้อยกว่า 61 คะแนน 
  3. TOEFL ITP ไม่น้อยกว่า 500 คะแนน
  4. CMU-eTEGS ไม่น้อยกว่า 65 คะแนน 
  5. CU-TEP ไม่น้อยกว่า 69 คะแนน
  6. TU-GET ไม่น้อยกว่า 650 คะแนน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)

  ที่จัดทำด้วยตนเอง จำนวนไม่เกิน 10 หน้า A4 (ไม่รวมปก) โดยพิมพ์ด้วย font Cordia New ขนาด 16 ประกอบด้วยเอกสารดังต่อไปนี้

  1. ประวัติส่วนตัว
  2. ประวัติการศึกษา
  3. ความเรียง (Essay) ที่สะท้อนถึงการทำงานร่วมกับทีมบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลประชาชนภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยใช้นวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ทางการพยาบาล ตลอดจนแสดงถึงจุดมุ่งหมายในการเรียนคณะพยาบาลศาสตร์ มีความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ A4
  4. วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่แสดงถึงความเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านวิชาการ/นวัตกรรม/การวิจัย/ความคิดสร้างสรรค์
  5. รางวัลหรือเกียรติบัตรอื่นๆ ที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• คุณสมบัติเฉพาะด้านสุขภาพ ของผู้สมัครเข้าศึกษาในคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 3.50
• ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น
• ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย

• เป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายพยาบาลในฝัน และได้รับผลการประเมินไม่ต่ำกว่า 60%

• สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสอบสัมภาษณ์ได้

• คุณสมบัติด้านสุขภาพ ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
• เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังต่อไปนี้
1. มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
2. มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง(severe neurosis) หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
3. โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่จะมีผลต่อผู้รับบริการหรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
4. โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
• โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
• โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
• โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
• ภาวะไตวายเรื้อรัง
• โรคติดสารเสพติดให้โทษทุกชนิด
5. ตาบอดสี ชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
6. ความผิดปกติในการเห็นภาพ โดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
• สายตาไม่ปกติเมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วยังมีสายตาต่ำกว่า 6/24 ทั้งสองข้าง
• สายตาข้างดี ต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
7. มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบลจากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (sensory neural hearing loss) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
8. โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกาย เห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

• ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าศึกษา จะต้องตรวจสุขภาพกับคณะพยาบาลศาสตร์ ดังต่อไปนี้
1. ตรวจร่างกาย
2. การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
3. การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น
4. การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
5. การตรวจภูมิต้านทานโรคสุกใส
6. การตรวจการได้ยิน Audiogram เฉพาะรายที่แพทย์สั่งตรวจเนื่องจากสงสัยว่าจะมีปัญหาการได้ยิน
7. การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

และหากผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าศึกษา ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูลหรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลัง หรือรายงานผลการตรวจร่างกาย ตามที่ระบุไว้มีข้อหนึ่งข้อใดที่ระบุว่าผิดปกติหลังจากที่ยืนยันสิทธิ์แล้ว จะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา

• เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
• จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง โดยให้นักเรียนคัดกรองตนเองเบื้องต้น ได้ที่ https://onlinecolorblindtest.com
• หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES ให้ไปพบจักษุแพทย์และตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติมโดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบรับรองแพทย์

  ที่ระบุการตรวจร่างกายและรายละเอียดการตรวจตาบอดสีจากโรงพยาบาลของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชนเท่านั้น ซึ่งตรวจไว้ไม่เกิน 3 เดือนนับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร (ดาวน์โหลดแบบฟอร์มตามไฟล์ดังแนบ)

   ลิงค์เอกสารประกอบ
• หนังสือรับรอง (ไม่มีแบบฟอร์ม)

  หนังสือรับรองการเป็นนักเรียน พร้อมตราประทับตราโรงเรียน

• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)

  ที่จัดทำด้วยตนเอง จำนวนไม่เกิน 10 หน้า A4 (ไม่รวมปก) โดยพิมพ์ด้วย font Cordia New ขนาด 16 ประกอบด้วยเอกสารดังต่อไปนี้

  1. ประวัติส่วนตัว
  2. ประวัติการศึกษา
  3. ความเรียง (Essay) ที่สะท้อนถึงการทำงานร่วมกับทีมบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลประชาชนภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยใช้นวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ทางการพยาบาล ตลอดจนแสดงถึงจุดมุ่งหมายในการเรียนคณะพยาบาลศาสตร์ มีความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ A4
  4. วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่แสดงถึงความเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านวิชาการ/นวัตกรรม/การวิจัย/ความคิดสร้างสรรค์
  5. รางวัลหรือเกียรติบัตรอื่นๆ ที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน
• อื่น ๆ โปรดระบุ

  ประกาศนียบัตรการเข้าร่วมโครงการค่ายพยาบาลในฝัน (Born to be Nurse) ที่แสดงผลการประเมินไม่ต่ำกว่า 60%

• คุณสมบัติเฉพาะด้านสุขภาพ ของผู้สมัครเข้าศึกษาในคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

• สำหรับหลักสูตรนานาชาติ

  มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมไม่น้อยกว่า 80%

   
• ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทยเท่านั้น
• ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในประเทศไทยอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย

• เป็นผู้เข้าร่วมกิจกรรมค่ายพยาบาลในฝัน และได้รับผลการประเมินไม่ต่ำกว่า 60%

• สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสอบสัมภาษณ์ได้

• คุณสมบัติด้านสุขภาพ ของผู้สมัครเข้าศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
• เป็นผู้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และปราศจากโรค อาการของโรค หรือมีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา ดังต่อไปนี้
1. มีความพิการอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
2. มีปัญหาทางจิตเวชขั้นรุนแรง ได้แก่ โรคจิต (psychosis) โรคประสาทรุนแรง(severe neurosis) หรือโรคบุคลิกภาพแปรปรวน โดยเฉพาะ antisocial personality หรือ borderline personality รวมถึงปัญหาทางจิตเวชอื่น ๆ อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษาและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล และการผดุงครรภ์
3. โรคติดต่อในระยะติดต่ออันตราย ที่จะมีผลต่อผู้รับบริการหรือส่งผลให้เกิดความพิการอย่างถาวร อันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
4. โรคไม่ติดต่อหรือภาวะอันเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา
• โรคลมชักที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ (โรคลมชักที่ไม่มีอาการชักมาแล้วอย่างน้อย 3 ปี โดยการรับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญถือเป็นโรคลมชักที่ควบคุมได้)
• โรคหัวใจระดับรุนแรง จนเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา และการประกอบวิชาชีพเวชกรรม
• โรคความดันเลือดสูงรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อนทำให้เกิดพยาธิสภาพต่ออวัยวะอย่างถาวร
• ภาวะไตวายเรื้อรัง
• โรคติดสารเสพติดให้โทษทุกชนิด
5. ตาบอดสี ชนิดรุนแรงทั้งสองข้าง
6. ความผิดปกติในการเห็นภาพ โดยมีอย่างน้อยข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
• สายตาไม่ปกติเมื่อรักษาโดยใช้แว่นตาแล้วยังมีสายตาต่ำกว่า 6/24 ทั้งสองข้าง
• สายตาข้างดี ต่ำกว่า 6/12 เมื่อได้รับการแก้ไขอย่างดีที่สุดแล้ว
7. มีความผิดปกติในการได้ยิน โดยมีระดับการได้ยินของหูข้างที่ดีกว่าเฉลี่ยที่ความถี่ 500-2,000 เฮิรตซ์ สูงกว่า 40 เดซิเบลจากความผิดปกติทางประสาทและการได้ยิน (sensory neural hearing loss) ถ้าได้รับการรักษาแล้วไม่ดีขึ้น
8. โรคหรือความพิการอื่น ๆ ซึ่งมิได้ระบุไว้ที่คณะกรรมการผู้ตรวจร่างกาย เห็นว่าเป็นอุปสรรคต่อการศึกษา

• ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าศึกษา จะต้องตรวจสุขภาพกับคณะพยาบาลศาสตร์ ดังต่อไปนี้
1. ตรวจร่างกาย
2. การตรวจทางรังสีของทรวงอก (CXR)
3. การตรวจตาบอดสี การวัดระดับการมองเห็น
4. การตรวจการติดเชื้อและตรวจภูมิต้านทานไวรัสตับอักเสบชนิดบี
5. การตรวจภูมิต้านทานโรคสุกใส
6. การตรวจการได้ยิน Audiogram เฉพาะรายที่แพทย์สั่งตรวจเนื่องจากสงสัยว่าจะมีปัญหาการได้ยิน
7. การทดสอบทางจิตวิทยา (MMPI)

และหากผู้ที่ผ่านการคัดเลือกมีสิทธิ์เข้าศึกษา ให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือจงใจปกปิดข้อมูลหรือแม้ปรากฏเป็นความเท็จขึ้นภายหลัง หรือรายงานผลการตรวจร่างกาย ตามที่ระบุไว้มีข้อหนึ่งข้อใดที่ระบุว่าผิดปกติหลังจากที่ยืนยันสิทธิ์แล้ว จะถูกตัดสิทธิ์เข้าศึกษา

• เกณฑ์การตรวจตาบอดสี
• จะต้องสามารถอ่าน ISHIHARA PLATE ได้อย่างน้อย 12 PLATES ทั้งสองข้าง โดยให้นักเรียนคัดกรองตนเองเบื้องต้น ได้ที่ https://onlinecolorblindtest.com
• หากอ่านได้ไม่ถึง 12 PLATES ให้ไปพบจักษุแพทย์และตรวจ FARNSWORTH D15 hue test เพิ่มเติมโดยหากนักเรียนไม่มีภาวะตาบอดสีขั้นรุนแรงตามหลักการวินิจฉัยของวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทย สาขาวิชาก็สามารถรับนักเรียนเข้าศึกษาได้

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบรับรองแพทย์

  ที่ระบุการตรวจร่างกายและรายละเอียดการตรวจตาบอดสีจากโรงพยาบาลของรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชนเท่านั้น ซึ่งตรวจไว้ไม่เกิน 3 เดือนนับถึงวันสุดท้ายของการรับสมัคร (ดาวน์โหลดแบบฟอร์มตามไฟล์ดังแนบ)

   ลิงค์เอกสารประกอบ
• หนังสือรับรอง (ไม่มีแบบฟอร์ม)

  หนังสือรับรองการเป็นนักเรียน พร้อมตราประทับตราโรงเรียน

• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)

  ที่จัดทำด้วยตนเอง จำนวนไม่เกิน 10 หน้า A4 (ไม่รวมปก) โดยพิมพ์ด้วย font Cordia New ขนาด 16 ประกอบด้วยเอกสารดังต่อไปนี้

  1. ประวัติส่วนตัว
  2. ประวัติการศึกษา
  3. ความเรียง (Essay) ที่สะท้อนถึงการทำงานร่วมกับทีมบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลประชาชนภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยใช้นวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ทางการพยาบาล ตลอดจนแสดงถึงจุดมุ่งหมายในการเรียนคณะพยาบาลศาสตร์ มีความยาวไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ A4
  4. วุฒิบัตรหรือประกาศนียบัตรที่แสดงถึงความเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านวิชาการ/นวัตกรรม/การวิจัย/ความคิดสร้างสรรค์
  5. รางวัลหรือเกียรติบัตรอื่นๆ ที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน
• อื่น ๆ โปรดระบุ

  ประกาศนียบัตรการเข้าร่วมโครงการค่ายพยาบาลในฝัน (Born to be Nurse) ที่แสดงผลการประเมินไม่ต่ำกว่า 60%

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 3.00
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• เป็นผู้ที่มีความรู้ทางภาษาอังกฤษ โดยแสดงหลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอบภายใน 2 ปี (นับถึงวันสุดท้ายที่รับสมัคร) ดังนี้

1. TOEFL (iBT) ไม่น้อยกว่า 33 คะแนน
2. TOEFL (PBT) ไม่น้อยกว่า 407 คะแนน
3. IELTS (Overall Band Score) ไม่น้อยกว่า 3.5
4. TOEIC ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน
5. มีผลการสอบภาษาอังกฤษที่เทียบเท่าข้อ 1-4 เช่น CMU-eTEGs ไม่น้อยกว่า 40 คะแนน, CU-TEP ไม่น้อยกว่า 45 คะแนน หรือมาตรฐานอื่น ๆ ที่คณะกรรมการคัดเลือกเห็นว่าเทียบเท่า

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• หลักฐานผลคะแนนที่ใช้คัดเลือก

  หลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอบภายใน 2 ปี (นับถึงวันสุดท้ายที่รับสมัคร)

• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถในทักษะทางภาษาอังกฤษ ด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน รวมถึงทักษะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  
• โครงการเด็กดีมีที่เรียน
  • เป็นผู้มีคุณสมบัติตามเอกสารแนบท้ายประกาศการรับบุคคลเข้าศึกษาในโครงการเด็กดีมีที่เรียน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โปรดดูรายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารประกอบการรับสมัคร ทางเว็บไซต์ https://www1.reg.cmu.ac.th/ugradapply/  

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• หนังสือรับรองคุณสมบัติผู้สมัครโดยผู้นำชุมชน, หนังสือรับรองจากโรงเรียน และหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน การรับบุคคลเข้าศึกษาในโครงการเด็กดีมีที่เรียน (ดาวน์โหลดทางเว็บไซต์ https://www1.reg.cmu.ac.th/ugradapply/)

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• ต้องมีผลงานอย่างใดหนึ่งดังต่อไปนี้

1. ผ่านการเข้าร่วมโครงการค่ายอุตสาหกรรมเกษตร สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย AgroCMU X-perience Camp 
2. ผ่านการเข้าร่วมโครงการค่ายทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ เช่น สถาบันอุดมศึกษา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นต้น
3. ได้รับรางวัลจากการประกวดแข่งขันความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โรงเรียน สถาบันอุดมศึกษา หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นต้น

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 3.00
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• เป็นผู้ที่มีความรู้ทางภาษาอังกฤษ โดยแสดงหลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอบภายใน 2 ปี (นับถึงวันสุดท้ายที่รับสมัคร) ดังนี้

1. TOEFL (iBT) ไม่น้อยกว่า 33 คะแนน
2. TOEFL (PBT) ไม่น้อยกว่า 407 คะแนน
3. IELTS (Overall Band Score) ไม่น้อยกว่า 3.5
4. TOEIC ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน
5. มีผลการสอบภาษาอังกฤษที่เทียบเท่าข้อ 1-4 เช่น CMU-eTEGs ไม่น้อยกว่า 40 คะแนน, CU-TEP ไม่น้อยกว่า 45 คะแนน หรือมาตรฐานอื่น ๆ ที่คณะกรรมการคัดเลือกเห็นว่าเทียบเท่า

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• หลักฐานผลคะแนนที่ใช้คัดเลือก

  หลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอบภายใน 2 ปี (นับถึงวันสุดท้ายที่รับสมัคร)

• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถในทักษะทางภาษาอังกฤษ ด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน รวมถึงทักษะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  
• โครงการเด็กดีมีที่เรียน
  • เป็นผู้มีคุณสมบัติตามเอกสารแนบท้ายประกาศการรับบุคคลเข้าศึกษาในโครงการเด็กดีมีที่เรียน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โปรดดูรายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารประกอบการรับสมัคร ทางเว็บไซต์ https://www1.reg.cmu.ac.th/ugradapply/  

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• หนังสือรับรองคุณสมบัติผู้สมัครโดยผู้นำชุมชน, หนังสือรับรองจากโรงเรียน และหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน การรับบุคคลเข้าศึกษาในโครงการเด็กดีมีที่เรียน (ดาวน์โหลดทางเว็บไซต์ https://www1.reg.cmu.ac.th/ugradapply/)

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• ต้องมีผลงานอย่างใดหนึ่งดังต่อไปนี้

1. ผ่านการเข้าร่วมโครงการค่ายอุตสาหกรรมเกษตร สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย AgroCMU X-perience Camp
2. ผ่านการเข้าร่วมโครงการค่ายทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ เช่น สถาบันอุดมศึกษา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นต้น
3. ได้รับรางวัลจากการประกวดแข่งขันความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โรงเรียน สถาบันอุดมศึกษา หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นต้น

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6  
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  
• โครงการรับนักกีฬาที่มีความสามารถดีเด่นระดับนานาชาติ/ระดับชาติ และนักกีฬาตามยุทธศาสตร์
  • เป็นผู้มีคุณสมบัติตามเอกสารแนบท้ายประกาศการรับสมัครนักเรียนเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรี โครงการรับนักกีฬาที่มีความสามารถดีเด่นระดับนานาชาติ/ระดับชาติ และนักกีฬาตามยุทธศาสตร์ โปรดดูรายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครเพิ่มเติม ทางเว็บไซต์ https://www1.reg.cmu.ac.th/ugradapply/  

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • เป็นไปตามเอกสารแนบท้ายประกาศการรับสมัครนักเรียนเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีโครงการรับนักกีฬาที่มีความสามารถดีเด่นระดับนานาชาติ/ระดับชาติ และนักกีฬาตามยุทธศาสตร์
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 3.00
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• เป็นผู้ที่มีความรู้ทางภาษาอังกฤษ โดยแสดงหลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอบภายใน 2 ปี (นับถึงวันสุดท้ายที่รับสมัคร) ดังนี้

1. TOEFL (iBT) ไม่น้อยกว่า 33 คะแนน
2. TOEFL (PBT) ไม่น้อยกว่า 407 คะแนน
3. IELTS (Overall Band Score) ไม่น้อยกว่า 3.5
4. TOEIC ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน
5. มีผลการสอบภาษาอังกฤษที่เทียบเท่าข้อ 1-4 เช่น CMU-eTEGs ไม่น้อยกว่า 40 คะแนน, CU-TEP ไม่น้อยกว่า 45 คะแนน หรือมาตรฐานอื่น ๆ ที่คณะกรรมการคัดเลือกเห็นว่าเทียบเท่า

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• หลักฐานผลคะแนนที่ใช้คัดเลือก

  หลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอบภายใน 2 ปี (นับถึงวันสุดท้ายที่รับสมัคร)

• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถในทักษะทางภาษาอังกฤษ ด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน รวมถึงทักษะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  
• โครงการเด็กดีมีที่เรียน
  • เป็นผู้มีคุณสมบัติตามเอกสารแนบท้ายประกาศการรับบุคคลเข้าศึกษาในโครงการเด็กดีมีที่เรียน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โปรดดูรายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารประกอบการรับสมัคร ทางเว็บไซต์ https://www1.reg.cmu.ac.th/ugradapply/  

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• หนังสือรับรองคุณสมบัติผู้สมัครโดยผู้นำชุมชน, หนังสือรับรองจากโรงเรียน และหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน การรับบุคคลเข้าศึกษาในโครงการเด็กดีมีที่เรียน (ดาวน์โหลดทางเว็บไซต์ https://www1.reg.cmu.ac.th/ugradapply/)

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• ต้องมีผลงานอย่างใดหนึ่งดังต่อไปนี้

1. ผ่านการเข้าร่วมโครงการค่ายอุตสาหกรรมเกษตร สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย AgroCMU X-perience Camp
2. ผ่านการเข้าร่วมโครงการค่ายทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ เช่น สถาบันอุดมศึกษา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นต้น
3. ได้รับรางวัลจากการประกวดแข่งขันความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โรงเรียน สถาบันอุดมศึกษา หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นต้น

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  ไม่น้อยกว่า 3.00
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• เป็นผู้ที่มีความรู้ทางภาษาอังกฤษ โดยแสดงหลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอบภายใน 2 ปี (นับถึงวันสุดท้ายที่รับสมัคร) ดังนี้

1. TOEFL (iBT) ไม่น้อยกว่า 33 คะแนน
2. TOEFL (PBT) ไม่น้อยกว่า 407 คะแนน
3. IELTS (Overall Band Score) ไม่น้อยกว่า 3.5
4. TOEIC ไม่น้อยกว่า 550 คะแนน
5. มีผลการสอบภาษาอังกฤษที่เทียบเท่าข้อ 1-4 เช่น CMU-eTEGs ไม่น้อยกว่า 40 คะแนน, CU-TEP ไม่น้อยกว่า 45 คะแนน หรือมาตรฐานอื่น ๆ ที่คณะกรรมการคัดเลือกเห็นว่าเทียบเท่า

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• หลักฐานผลคะแนนที่ใช้คัดเลือก

  หลักฐานผลการสอบความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษอย่างใดอย่างหนึ่งที่สอบภายใน 2 ปี (นับถึงวันสุดท้ายที่รับสมัคร)

• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถในทักษะทางภาษาอังกฤษ ด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน รวมถึงทักษะทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  
• โครงการเด็กดีมีที่เรียน
  • เป็นผู้มีคุณสมบัติตามเอกสารแนบท้ายประกาศการรับบุคคลเข้าศึกษาในโครงการเด็กดีมีที่เรียน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โปรดดูรายละเอียดคุณสมบัติของผู้สมัครเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารประกอบการรับสมัคร ทางเว็บไซต์ https://www1.reg.cmu.ac.th/ugradapply/  

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• หนังสือรับรองคุณสมบัติผู้สมัครโดยผู้นำชุมชน, หนังสือรับรองจากโรงเรียน และหนังสือส่งรายชื่อผู้สมัครจากโรงเรียน การรับบุคคลเข้าศึกษาในโครงการเด็กดีมีที่เรียน (ดาวน์โหลดทางเว็บไซต์ https://www1.reg.cmu.ac.th/ugradapply/)

• บัตรประจำตัวประชาชน

• สำหรับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฯ
  • เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 (5 เทอม)  ไม่น้อยกว่า 2.75
  • รับเฉพาะแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์หรือเทียบเท่า  

• ต้องมีผลงานอย่างใดหนึ่งดังต่อไปนี้

1. ผ่านการเข้าร่วมโครงการค่ายอุตสาหกรรมเกษตร สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย AgroCMU X-perience Camp
2. ผ่านการเข้าร่วมโครงการค่ายทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับ เช่น สถาบันอุดมศึกษา สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นต้น
3. ได้รับรางวัลจากการประกวดแข่งขันความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โรงเรียน สถาบันอุดมศึกษา หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นต้น

• ใบสมัคร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
• ใบแสดงผลการเรียน
• แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) (ไม่มีแบบฟอร์ม)
  • รูปแบบของแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio)
  1. ให้จัดทำเป็นรูปเล่มมีจำนวนไม่เกิน 10 หน้ากระดาษขนาด A4 (ไม่รวมปกและคำนำ)
  2. เนื้อหาในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) แสดงถึงความรู้ ความสามารถ ทักษะ การเข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงผลงานและรางวัลที่ได้รับ
• หลักฐานการชำระเงิน

• บัตรประจำตัวประชาชน